รายงานระบุว่า กองทัพปลดแอกแห่งชาติ หรือ Colombia's National Liberation Army (ELN) ที่ทำการลักพาตัวในครั้งนี้ไม่ทราบว่าคนที่พวกเขาจับตัวไปนั้นเป็นบิดา-มารดาของตัวรุก "หงส์แดง" แม้จะดูไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไรก็ตาม
เพราะอย่างที่รู้กันว่าบรรดานักฟุตบอลในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมีชื่อเสียงและอยู่กับทีมชั้นนำ มันมีรายได้มหาศาลที่หลายครั้งทำให้คนในครอบครัวตกเป็นเป้าหมายในการลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่
นั่นยังรวมถึงบ้านพักที่เป็นหลายครั้งเราได้เห็นข่าวว่าโดนยกเค้าอยู่เรื่อยๆ
พอมีเรื่องของ ดีอาซ เกิดขึ้นทาง จอห์น โอบี มิเกล อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติไนจีเรีย ก็ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่คุณพ่อของเขาโดนลักพาตัวย้อนกลับไปเมื่อปี 2018
ปา มิเกล โอบี พ่อของอดีตสตาร์จาก เชลซี ถูกจับตัวไปก่อนเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่ ไนจีเรีย จะเจอกับ อาร์เจนติน่า เพียงหนึ่งวันเท่านั้น ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่มีผลต่อการเข้ารอบของทั้งสองทีมด้วย
การแข่งขันที่ รัสเซีย ในปีนั้นทัพ "ฟ้า-ขาว" ออกสตาร์ทแย่มากๆ โดยเปิดเกมแรกด้วยการเสมอ ไอซ์แลนด์ 1-1 และแพ้ โครเอเชีย ยับเยิน 0-3 มีแค่คะแนนเดียว ส่วน ไนจีเรีย แพ้ โครเอเชีย 0-2 ในนัดเปิดสนาม ส่วนเกมที่สองชนะ ไอซ์แลนด์ 2-0 มีอยู่ 3 แต้ม
นั่นเท่ากับว่า อาร์เจนติน่า ต้องการชัยชนะสถานเดียวเพื่อที่จะเข้ารอบต่อไป
จอห์น โอบี มิเกล ไม่บอกใครในเรื่องนี้พร้อมกัดฟันสวมปลอกแขนกัปตันทีมลงสู่สนาม สุดท้ายทีมแพ้ 1-2 ตกรอบไป
ปา มิเกล โอบี ถูกปล่อยตัวใยนเวลาต่อมาหลังจากที่เขาจ่ายค่าไถ่ ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจว่าเข้าใจความรู้สึกของ หลุยส์ ดีอาซ ว่าต้องเจอกับอะไร รวมถึงการยื่นมือเข้ามาของ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรเชลซี ในเวลานั้น
"เชลซี ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่, ผมจำได้ว่า โรมัน (อบราโมวิช) พูดว่า 'นายต้องการให้ฉันส่งคนไปมั้ย? เพราะฉันรู้ว่าถ้าฉันส่งคนไป ฉันจะช่วยพ่อนายกลับมาได้' ในตอนนั้นผมแบบ 'คุณจะทำยังไง'"
"เขาตอบกลับมาว่า 'ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น แค่บอกมาว่านายต้องการแบบนั้น ฉันจัดการให้ได้'"
"การได้รู้ว่าพ่อของผมถูกลักพาตัวเป็นอะไรที่ช็อกมาก ผมไม่สามารถออกจากห้องได้ ผมไม่สามารถบอกกับใครได้ ผมอยู่ในห้องคนเดียวนาน 30 นาที คิดว่าจะทำยังไงดี? บอกกับผู้จัดการทีมดีไหม? บอกเพื่อนร่วมทีมดีรึเปล่า? หรือจะประกาศเรื่องนี้ให้ทุกคนได้รู้ดี"
"แต่เรากำลังเข้าสู่เกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เรากำลังจะเผชิญหน้ากับ ลิโอเนล เมสซี่ และ อาร์เจนติน่า, ดังนั้นผมคิดเรื่องนี้ ผมแบบว่า คุณรู้อะไรมั้ย? ผมจะปิดเรื่องนี้ไว้ ผมโทรบอกเรื่องนี้กับแม่และน้องชาย พวกเขาร้องไห้ผ่านทางโทรศัพท์"
"พวกเขาบอกว่าไม่ ผมไม่ควรลงสนามเพราะผมจะทำผลงานได้ไม่ดี ผมใช้เวลาตามลำพังและตัดสินใจว่าจะลงสนาม น่าเสียดายที่เราไม่ชนะ และหลังจากนั้นผมก็บอกเรื่องนี้กับทุกคน"
"ในห้องแต่งตัวผู้จัดการทีมและผู้เล่นบางคนถึงกับร้องไห้ พวกเขาบอกว่า 'นายควรจะบอกพวกเราและนายไม่ควรจะลงสนาม'"
"ผมได้คุยกับพ่อที่ร้องไห้ผ่านทางโทรศัพท์และบอกว่าผมให้สิ่งที่พวกเขาร้องขอได้ไหมเพราะพ่อถูกทำร้ายร่างกายที่นั่นและพวกเขาก็เอาปืนจ่อหัวอยู่ตลอดเวลาแล้วบอกว่าจะฆ่าพ่อ ผมจัดการเรื่องจ่ายเงินก้อนโตเพื่อให้พ่อของผมได้รับการปล่อยตัว"
ก็หวังว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับใคร ไม่ว่าคุณจะเป็นนักฟุตบอลหรือใครก็ตาม
