:::     :::

"ดิโอโก้ โชต้า" กับเรื่องราวน่ารู้

วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
351
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ลิเวอร์พูล กำลังอยู่ในเส้นทางที่ยอดเยี่ยม ในการลงสนามฤดูกาล 2023-24

นอกจากการแก้เกม และมันสมองของ “เยอร์เก้น คล็อปป์” หนึ่งส่วนสำคัญที่ต้องได้รับเครดิตเป็นอย่างมาก นั่นคือนักเตะในทีม หนึ่งคนที่สปอร์ตไลท์อาจส่องไปไม่มาก แต่กลับทำผลงานให้ทีมได้ และยิงประตูได้เรื่อยๆ นั่นคือ “ดิโอโก้ โชต้า” 


โชต้า คืออีกหนึ่งกำลังพลสำคัญที่คล็อปป์ เตรียมนำมาใช้งาน ตลอดการลุ้นแชมป์ทุกรายการในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตาม ด้วยส่วนสูง 178 เซ็นติเมตร ที่ถือว่าไม่ได้สูงมาก เมื่อเทียบกับมาตรฐานนักเตะยุโรป ทำให้เขาต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเองมาอย่างหนัก


อาจกล่าวได้ว่า เส้นทางลูกหนังของโชต้า ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนกับคนทั่วไป กว่าจะก้าวมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เขาต้องผ่านแบบทดสอบอย่างมากมาย ที่สลับกันมาท้าทายให้เขาต้องกัดฟันต่อสู้ 


ไม่ว่าจะเป็นการเก็บหอมรอมริบ เพื่อนำตัวเองเข้าสู่โลกของฟุตบอล รวมถึงการใช้ชีวิตแบบติดดิน เพื่อให้ความฝันนั้น ก้าวไปข้างหน้าได้ ช่วงนี้ เราลองไปดูหนึ่งแง่มุมชีวิตของโชต้า ที่หล่อหลอมให้เขากลายมาเป็นนักเตะลิเวอร์พูล เหมือนในทุกวันนี้ 




โชต้า เกิด และเติบโตที่ปอร์โต้ ประเทศโปรตุเกส ชื่นชอบการเล่นฟุตบอล ตั้งแต่จำความได้ โดยเส้นทางลูกหนังของเขา ต้องพบเจอกับอุปสรรคสำคัญ เมื่อไม่เคยมีโอกาสเข้าร่วมทีมเยาวชนของบรรดาทีมดังในบ้านเกิด 


นอกจากนี้ การฝึกฟุตบอลของเขา จำเป็นจะต้องผ่านเก็บหอมรอมริบ และควักเงินส่วนตัว เรากล่าวให้เห็นภาพง่ายๆ ลีกโปรตุเกส มีทีมดังมากมาย ซึ่งสโมสรเหล่านี้ พวกเขามีเงินทุน และงบประมาณในการเลี้ยงดูเด็กในอะคาเดมี่ของตัวเอง


แต่กับสโมสรเล็กๆ ทีมต้องอาศัยเงินทุนจากเด็กๆที่อยากมาเข้าสังกัดด้วย เพื่อเป็นการพบกันคนละครึ่งทาง สโมสรอยู่ได้ และเด็กก็ได้ฝึกฟุตบอล โชต้า ออกมาย้อนความทรงจำว่า “วัยเด็กของผม ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายเมื่อผมต้องจ่ายเงินค่าเรียนฟุตบอล จนถึงอายุ 16 ปี” 


“นอกเหนือจากทีมดังอย่าง เอฟซี ปอร์โต้, เบนฟิก้า, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, บราก้า รวมไปถึง วิตอเรีย กิมาไรส์ คุณจำเป็นต้องควักเงินตัวเอง เพื่อเป็นการแลกกับการการเล่นกับอะคาเดมี่เล็กๆในโปรตุเกส สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา”


“ซึ่งผมต้องจ่ายเงินประมาณ 20 ยูโร เพื่อขอร่วมทีมกอนโดมาร์ สปอร์ต คลับ คุณจะไม่ต้องจ่ายเงิน ก็ต่อเมื่อคุณมีอายุถึง 19 ปี (เข้าสู่ระบบอาชีพเต็มตัว)” นี่คือจุดเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังของทางโชต้า กับทีมเล็กๆ โดยต้องแลกมากับความเสียสละอย่างมากมาย 


การต้องเก็บเงินไปด้วย พร้อมกับขอการสนับสนุนจากครอบครัวไปด้วย ทำให้เขาต้องพยายามมากกว่าคนอื่น 2 เท่า เพื่อเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้ได้




โชต้า เริ่มต้นเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนกับ กอนโดมาร์ สปอร์ต คลับ ซึ่งเป็นเพียงทีมระดับล่าง โดยช่วงเวลานั้น เขาไม่เคยถูกบรรดาทีมดังภายในประเทศชายตามามองเลย ไม่ว่าจะพยายามทดสอบฝีเท้าแค่ไหนก็ตาม


ส่วนสำคัญ ทำให้เขาถูกปฏิเสธรับเข้าร่วมทีมอยู่ร่ำไป นั่นคือรูปร่างที่เล็ก และบอบบางจนเกินไป โชต้า ออกมากล่าวว่า “บางที เรื่องของโครงสร้างร่างกาย อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่เคยถูกรับเลือกเลย”


“ย้อนกลับไปสมัยเด็ก ผมเคยเดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับเอฟซี ปอร์โต้ และเบนฟิก้า พออายุมากขึ้นมาหน่อย ผมก็ไปคัดตัวกับบราก้า ตอนนั้น ร่างกายของผมเริ่มพัฒนาขึ้นมาแล้ว มันเลยไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ผมรู้สึกว่าตัวเองทำได้ดีขึ้นในสนามแข่งขัน”


“ย้อนเวลากลับไป ถือเป็นเรื่องซับซ้อนของดาวรุ่ง สำหรับการก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ในลีกโปรตุเกส” แม้ร่างกายจะเติบโตขึ้นตามวัย แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อมาตรฐานของทีมดัง เขาจึงถูกปฏิเสธรับเข้าทีม ครั้งแล้ว ครั้งเล่า แต่เขาไม่เคยคิดยอมแพ้ 


คำกล่าวของโชต้า สอดคล้องกับการวิจัย ที่ระบุออกมาอย่างเป็นทางการตามตัวเลขเชิงสถิติ เมื่อทีมในลีกฝอยทอง เปิดโอกาสให้ดาวรุ่งวัย 15-21 ปี และนักเตะท้องถิ่นลงสนามในนามทีมชุดใหญ่ เป็นเปอร์เซนต์ของจำนวนนาทีที่น้อยมาก 


ส่วนมากแล้ว หลายทีมมักจะลงทุนซื้อนักเตะราคาถูก เพื่อนำมาปั้นต่อ และขายทำกำไรในราคาแสนแพงเสียมากกว่า



โชต้า เข้าร่วมทีมอะคาเดมี่ของปากอส เดอ เฟอร์ไรร่า นี่คือจุดเริ่มต้นเล็กๆ เขาเริ่มเข้าสู่กระบวนการพัฒนาตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นใน หรือนอกสนาม เขาทำการพูดคุยกับหัวหน้าทีมเยาวชน เกี่ยวกับเรื่องของการศึกษาภาษาต่างประเทศ เพราะมองว่า เป็นอีกช่องทางที่จะสร้างโอกาสให้ได้


โดยกล่าวว่า “ตอนนั้น ผมมองเห็นความเป็นไปได้ ในการออกไปเล่นฟุตบอลที่ต่างประเทศ เพื่อการปรับตัวที่ง่ายมากยิ่งขึ้น ความสามารถในการสื่อสาร จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ไม่ว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม”


“ผมเคยเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนมาก่อน ดังนั้น ผมจึงไปถามหัวหน้าทีมเยาวชนว่า ผมอยากเรียนภาษาสแปนิช เป็นการเพิ่มเติม หัวหน้าทีมเยาวชนมีแผ่นซีดีสอนภาษา ผมมองว่ามันมีประโยชน์มากเลย จากนั้น ผมก็เริ่มไปเรียนกับคุณครูท้องถิ่น” นี่คือความพยายามของโชต้า 




เพียงไม่นาน โชต้า ก้าวมาเล่นทีมชุดใหญ่ของปากอส เดอ เฟอร์ไรร่า พร้อมกับปัญหาใหญ่ที่เข้ามา เมื่อเขาถูกตรวจพบว่า มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหัวใจ โดยสุ่มเสี่ยงกับการต้องแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควร ผลสุดท้าย เขากัดฟัดสู้ และผ่านพ้นมันมาได้ 


การพุ่งทะยานมาเล่นลีกสูงสุดในบ้านเกิด ด้วยวัยแค่ 17 ปี ทว่าเขากลับยังคงทำตัวติดดินอยู่เสมอ โชต้า เป็นนักเตะจากทีมชุดใหญ่เพียงแค่รายเดียวเท่านั้น ที่เลือกจะพักอาศัยในหอพักนักกีฬา ร่วมกับเหล่าผู้เล่นเยาวชนต่อไป 


เพราะนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่สอนให้เขาไม่ลืมตัว แม้บางช่วงเวลา เขาต้องพักร่วมกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นราว 7-8 คนก็ตามที กระทั่งปี 2016 โชต้า ก็โดนแอตเลติโก้ มาดริด ดึงตัวเขาไปร่วมทีม อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีโอกาสลงเล่นให้กับพลพรรค “ตราหมี” 


เพราะถูกส่งไปให้กับเอฟซี ปอร์โต้ และวูล์ฟส สลับกันยืมตัว ก่อนถูกขายขาดให้กับทัพ “หมาป่า” ในอีก 2 ปีต่อมา  ระหว่างทาง หลายคนอาจยกธงขาว ในการเล่นกับสโมสรใหญ่ไปแล้ว กระนั้น โชต้า กลับมองว่ามันเป็นประสบการณ์ ช่วยให้เขาเตรียมตัวให้พร้อม


ความอดทนเหล่านั้น ช่วยให้เขากลายมาเป็นสมาชิกของยักษ์ใหญ่อย่างลิเวอร์พูล พร้อมกับเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จ โชต้า กล่าวทิ้งท้ายว่า เขาไม่มีวันเดินทางมาถึงจุดนี้ ในการเป็นนักเตะของลิเวอร์พูล


หากเขาไม่อดทนเก็บเงิน เพื่อส่งตัวเองเรียนศาตร์ลูกหนัง, หากเขายอมแพ้ต่อโครงสร้างร่างกายที่ผอมบาง และหากถอดใจกับปัญหาเรื่องระบบหัวใจ ที่สำคัญ เขายังไม่เคยทอดทิ้งแรงบันดาลใจ ผ่านไอดอลอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ จนวันนี้ เขาได้เล่นทีมชาติโปรตุเกส ชุดใหญ่ ร่วมกันแล้ว 


โชต้า กล่าวว่า “ฮีโร่ของผม นั่นคือคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผมเริ่มเห็นเขาลงสนามในระดับสูงกับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โรนัลโด้ คว้าบัลลงดอร์ และรางวัลอื่นอีกมาก ในฐานะชาวโปรตุกีส เขาคือแบบอย่างที่ผมอยากจะทำตาม”


การประเดิมทีมชาติของผม เกิดขึ้นกับทีมชาติลิทัวเนีย ซึ่งผมได้ลงสนามมาเล่นแทนโรนัลโด้ มันเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษต่อผมมาก ผมรู้สึกยินดี ที่ได้รับโอกาสแชร์ห้องแต่งตัวร่วมกับเขา” 



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด