บทสัมภาษณ์ของลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของเขาทั้งในเรื่องการเริ่มต้นกับที่นี่ และแรงขับในการได้ลงสนามในฐานะนักเตะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ก่อนหน้านี้เขาได้เคยเปิดเผยถึงความสำคัญของครอบครัวที่ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งยังไง และคำกล่าวที่เขาเคยพูดเอาไว้เมื่อต้นปีนี้ว่า "ทำไมผมจะไม่ออกไปทำให้โลกใบนี้ได้เห็น ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนั้น ผมทุ่มเทฝึกฝนอย่างเต็มที่ในทุกๆการฝึกซ้อม และในทุกๆการแข่งขัน" ยังคงชัดเจนอยู่
ความทรงจำสมัยเด็กที่อาร์เจนติน่าเป็นเหมือนแรงผลักดันของเขา และสามารถพูดได้ว่าบุคลิกที่แข็งแกร่งนี้มันจำเป็นมากๆต่อช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาในระหว่างที่เขาพยายามพักฟื้นร่างกายให้หายจากอาการบาดเจ็บ
นี่คือเรื่องราวของการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูของเขา และความหวังในปี 2024 มาร์ติเนซบอกถึงเทคนิคทางด้านจิตใจของเขาซึ่งสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา
"แน่นอน ผมทำแบบนั้นทุกๆวันอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับว่าตอนไหนๆ"
"ผมคิดว่ามันสำคัญมากๆที่จะระลึกไว้ว่าคุณเริ่มมาจากที่ใด เรากำลังพูดถึงถึงเรื่องนี้ซึ่งผมรู้สึกตื้นตันมาก เพราะงั้นมันเป็นอะไรที่สำคัญสำหรับผมสุดๆ"
"สิ่งที่ผมคิดคือผมรู้สึกขอบคุณ ต้องขอบคุณจริงๆ คุณดูสถานที่แห่งนี้สิ ดูตรานี้ ดูสนามแข่ง ผู้คน แฟนบอล แพชชั่น คุณจะต้องสู้เพื่อคนของคุณ คุณต้องสู้เพื่อทุกๆคน"
"มันไม่ใช่แค่เรื่องของคุณคนเดียว มันเกี่ยวพันกับผู้คนอีกเป็นล้านๆ เราต้องถ่อมตัวไม่เหลิง และเดินหน้าลุยไปเรื่อยๆอย่าหยุด"
"ไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นข้ออ้างทั้งสิ้น แค่นั้นเลย"
ครอบครัวสำคัญที่สุด
ลิช่าสร้างชื่อเสียงให้คนได้เห็นในเรื่องของความไม่ยอมแพ้ตลอดเส้นทางอาชีพของเขา และความมุ่งมั่นที่ว่านั้นเป็นแค่หนึ่งในหลายเหตุผลที่ทำไม เอริค เทน ฮาก ถึงนำเอามาจากอาแจ็กซ์เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา
คาแรคเตอร์ที่ว่านี้สำคัญมากต่อการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้สำเร็จ และเขาภูมิใจที่จะมอบเครดิตทั้งหมดให้กับครอบครัวเวลาที่ถูกตั้งคำถามว่าบุคลิกลักษณะอันแข็งแกร่งนี้ถูกหล่อหลอมมาได้ยังไง
"ผมมาจากครอบครัวดีที่ให้คุณค่า ให้ความเคารพ ถ่อมตัว กตัญญู รู้สึกขอบคุณในทุกๆวินาทีของชีวิต และผมคิดว่ามันมาจากพ่อผม ปู่ย่า แม่ผม และผู้คนอีกมากมาย"
"จากจุดเริ่มต้นของชีวิต พ่อผมมักจะพูดอยู่เสมอว่า ลูกสามารถดีขึ้นได้จากทุกๆคน เพราะงั้นผมเลยสู้ ซึ่งพ่อก็บอกอยู่ตลอดว่า สู้เพื่ออาหารของเจ้าเอง นั่นคือที่เขาพร่ำสอน"
"ผมจึงพยายามสู้ พยายามจะเป็นคนที่ดี เพื่อที่จะแบ่งปันความรักให้กับผู้คนรอบๆ เพื่อที่จะเป็นตัวอย่างให้กับทุกๆคน ผมพยายามจะชนะ พยายามทุ่มเททุกอย่างเท่าที่มี ผมคิดว่าครอบครัวของผมสำคัญมากๆ"
อัพเดทอาการบาดเจ็บ
มีหลายๆคนที่อยากจะทราบว่า ตอนนี้กระบวนการพักฟื้นเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเขาเป็นยังไงบ้าง จากข่าวที่ออกมาว่าเขาน่าจะกลับมาได้ในช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ อ้างอิงตามการให้สัมภาษณ์ของเทน ฮาก ลิช่าได้ให้ข้อมูลเอาไว้ดังนี้
"ผมดีขึ้นเยอะเลย อันนี้จริง"
"กระบวนการฟื้นฟูของผมไปเป็นได้อย่างน่าทึ่งมากในแบบที่ผมต้องการเลย ผมรู้สึกแข็งแรงมาก ทำทุกอย่างได้เรียบร้อยในการดูแลตรงนี้ร่วมกันกับ Ibra (Ibrahim Kerem นักกายภาพ) เขาเจ๋งมาก และก็รวมถึงฝ่ายแพทย์ด้วย พวกเขาดูแลผมตั้งแต่วันแรกเลย เพราะงั้นมันสำคัญมากๆ ใช่เลยตามนั้นทุกอย่างเรียบร้อยสำหรับผม"
มาร์ติเนซและทีมแพทย์แมนยูพยายามทำให้แน่ใจว่าเขารู้สึกเต็ม100จริงๆก่อนที่จะกลับมาลงแข่งขันอีกครั้ง
"แน่นอน เราจะต้องค่อยๆ ต้องใจเย็นๆ ผมรู้ได้ว่าเดี๋ยวจะได้กลับมาแล้ว ใกล้มากๆ ซึ่งมันต้องใช้เวลา เราต้องใจเย็นๆ"
สภาพจิตใจและความท้าทายในทางร่างกาย
ลิช่าระบุว่ามันเป็นอะไรที่ลำบากมากกับการที่ทำได้แค่ดูยูไนเต็ดลงแข่งจากข้างนอกสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ผลการแข่งขันมันไม่เป็นไปตามที่ต้องการ แต่เขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยเพื่อนร่วมทีมแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพื่อนที่กำลังพยายามรักษาอาการบาดเจ็บเพื่อกลับมาเช่นกัน
"มันลำบากมากจริงๆ โดยเฉพาะคุณต้องเจ็บมาสองครั้ง รวมเกือบๆหกหรือเจ็ดเดือน มันเป็นอะไรที่โคตรยากจริงๆ แต่ผมรู้สึกเข้มแข็งจากข้างใน ผมได้รับกำลังใจที่มีค่ามากจากครอบครัวเพื่อให้สู้ต่อไปไม่ยอมแพ้ นี่จึงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมแกร่งขึ้น มันเป็นช่วงเวลาที่ยากจริงๆแต่ก็ไม่มีข้ออ้างใดๆทั้งนั้น"
"มันเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอล ต้องยอมรับในเรื่องนั้นจริงๆ ต้องใจเย็นๆ มันเป็นเวลาที่ต้องทำงานให้หนักยิ่งขึ้นกว่าเดิมในยิม พัฒนาขึ้นให้ได้ พยายามวิเคราะห์ ศึกษาแทคติก และสิ่งต่างๆที่จะทำให้เราปรับปรุงดีขึ้นได้เวลาลงเล่นในสนาม"
"ในฐานะคนๆหนึ่งด้วยเช่นกัน ผมชอบที่จะพัฒนาในส่วนนั้น เพราะสำหรับทุกๆคนแล้วถ้าคุณปรับปรุงพัฒนาขึ้น มันจะเห็นได้ชัดทันทีเลยในสนาม"
"ผมรักสโมสรนี้ รักที่แห่งนี้ ผมรู้สึกขอบคุณมากที่ได้อยู่ที่นี่ในทุกๆวัน การได้ใช้เวลาทำงานร่วมกันกับทีมกายภาพ ทีมชุดแข่ง กับเพื่อนร่วมทีม และกับทุกๆคน ผมชอบช่วงเวลาเหล่านี้"
"ผมยังได้คุยกับทุกๆคนด้วย เพื่อที่จะรับฟัง เพื่อปรับปรุง เพราะผมคิดว่าเราสามารถที่จะรับสิ่งต่างๆจากทุกคนเข้ามาได้"
"มันไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นนักฟุตบอลอย่างเดียว มันเป็นอะไรที่ดี และผมก็ได้ใช้เวลากับครอบครัวในอาร์เจนติน่า มันสำคัญมากสำหรับผมที่จะได้รับความรักจากครอบครัว ผมรักครอบครัวของผมเช่นกัน ดังนั้นสิ่งนี้จึงเป็นอะไรที่สำคัญมากสำหรับผม"
แผนในปีใหม่นี้
มาร์ติเนซเป็นจอมท้าชนอย่างแท้จริง เขากระหายที่จะชดเชยช่วงเวลาที่เสียไป และหวังว่าจะได้เป็นส่วนสำคัญในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของปีนี้ เจ้าตัวกล่าวว่าทีมยังต้องลงสนามอีกเยอะในพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสที่จะคว้าถ้วยแชมป์ FA Cup ที่ยังคงเหลืออยู่
"หัวใจของผมคือการเอาชนะให้ได้ในทุกๆอย่าง แน่นอน ตอนนี้เราตกรอบจากแชมเปี้ยนส์ลีกไปแล้ว และเราโคตรจะผิดหวัง แต่ตอนนี้เราต้องการชนะให้ได้ในทุกๆเกม เราต้องสู้ และต้องไปเอาเอฟเอคัพมาให้ได้ เราต้องคว้าทุกอย่างมาให้สำเร็จเท่าที่เราจะทำได้"
และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวมุมมอง และคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดผ่านเว็บไซต์officialของสโมสร ที่บ่งบอกให้เห็นถึงตัวตนอันแข็งแกร่งของชายคนนี้
ครึ่งฤดูกาลหลังเชื่อว่า การเรียกความฟิตของมาร์ติเนซจะถึงจุดที่เขากลับมาลงสนามได้ และค่อยๆลงแข่งขันอย่างเหมาะสมโดยไม่ใช้ร่างกายหักโหมมากนัก ด้วยโปรแกรมการแข่งขันที่ลดทอนลงไปในช่วงกลางสัปดาห์ เราเชื่อว่ามาร์ติเนซจะกลับมายืนเป็นตัวหลักระยะยาวให้กับทีมได้ ซึ่งนั่นจะทำให้ Core การเล่นของทีม ซึ่งเอริคจริงๆแล้วต้องการเซ็ตบอลจากแผงหลัง และตอนนี้ไม่สามารถทำได้เลย เพราะ CB ที่ลงสนามไม่มีใครเป็นตัว ball-playing อย่างจริงจังที่ทำให้ทีมเล่นเกมได้ตามที่ EtH ต้องการ
การกลับมาของลิช่า จะทำให้ทีมครองบอลได้เหนียวแน่นและชัวร์มากขึ้น โอนาน่าด้านหลังจะเล่นได้สบายกว่าเดิมไม่ต้องรับภาระเป็นตัวออกบอลหลักอยู่ตลอดเวลาในจังหวะที่โดนเพรส, เกมรับของทีมจะแน่นขึ้น และมันจะเป็นช่วงเวลาที่ดีกว่าในตอนที่ผ่านมาของทั้งแมนยูไนเต็ด และลิซานโดร มาร์ติเนซแน่นอน
ตั้งตารอและตื่นเต้นที่จะได้เห็นกองหลังจอมแกร่งหมายเลข6รายนี้กลับมาลงสนาม โชว์ความเข้มข้นและแข็งแกร่งในสนามแทบไม่ไหวแล้ว แฟนผีเตรียมตัวได้เลย คราวนี้เหมือนมีกำลังรบเพิ่มขึ้นอีกเป็นกองทัพทีเดียว
แค่ผู้ชายคนนี้กลับมา
#BELIEVE
-ศาลาผี-
References
https://www.manutd.com/en/news/detail/lisandro-martinez-exclusive-interview-providing-injury-update
