1.ความเคลื่อนไหวขุมกำลัง

2-3 เดือนหลังมานี้ถือว่าผู้เล่น ลิเวอร์พูล โดนเคี่ยวกรำใช้งานหนัก หลายคนบาดเจ็บล้มหมอนนอนเสื่อ แต่ทีมมีข่าวคือแบ็กซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ฟิตพอกลับมาอยู่ในกลุ่มใช้งานอีกครั้ง 

แข้งสกอตต์หายหน้าไปตั้งแต่ต.ค.เพราะไหล่เคลื่อน เข้ารับการผ่าตัดจนทุกอย่างเป็นปกติพร้อมล่องใต้ไปกรุงลอนดอน 

รายของ โดมินิก โซบอสไล กับ เทรนท์ อล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็จ่อแล้ว แต่ทีมไม่อยากเสี่ยงเร่งแข่งพุธนี้ คงต้องรออย่างเร็วเอฟเอ คัพ รอบสี่ สุดสัปดาห์ 

2. กัคโปตั้งเป้าสร้างประวัติศาสตร์ 

โคดี้ กัคโป มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์แก่สโมสร หากว่าเขาสามารถทำประตูได้อีกที่คราเว่น ค็อตเทจ พุธนี้ 

เพราะแข้งดัตช์จะเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล คนแรกที่ซัดอย่างน้อย 1 ประตูต่อเนื่องห้าเกมติดบนรายการ ลีก คัพ หลังจากมีชื่อบนสกอร์บอร์ดมาแล้วทุกรอบซีซั่นนี้ 

ดูพี่แกจะถูกโฉลกกับน้าแอ๊ดคัพจริงๆ 

3. ไร้กฎอะเวย์ โกล - ยิงจุดโทษหากจำเป็น  

เป็นสมัยนิยมไปแล้วอย่างฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปหากเตะ 2 นัดเหย้า-เยือนไม่มีกฎอะเวย์ โกล เช่นกันใน ลีก คัพ อังกฤษ ก็ไม่มีกฎยิงประตูฐานะทีมเยือน 

นั่นหมายความว่าหาก ฟูแล่ม ชนะคืนด้วยผลต่าง 1 ประตู จะสกอร์ใดๆก็ช่าง ผลรวมสองนัดเท่ากัน จะลากการแข่งขันถึงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที แล้วหากยังหาผู้ชนะไม่ได้ค่อยดวลเป้า

ต่างจากรอบก่อนๆที่เสมอใน 90 นาทีซัดจุดโทษทันที 

ภาวนาว่าไม่ต้องเหนื่อยกันเกินเวลาปกติ แบบที่ ‘หงส์แดง’ ลอยลำ 

4. นำ 1 ลูกยังไม่สรุปว่าเราได้ไปเวมบลี่ย์แล้ว  

สถิติผลงานในบ้านของ ฟูแล่ม ถือว่าประมาทไม่ได้ ต่อให้ ลิเวอร์พูล เล่นง่ายกว่าเพราะตุนผล 2-1 จากเลกแรก

เพราะหากย้อนไปเมื่อส.ค. 2’023. เจ้าสัวน้อย’ เปิดรังเขี่ย สเปอร์ส พ้นทางที่คราเว่น ค็อตเทจ ในคาราบ คัพ รอบสอง 

ขณะที่ 10 เกมลีกหลังสุดฐานะทีมเหย้า เฮดโค้ช มาร์โค ซิลวา เก็บชัย 6 หน 

5. ผลงานนอกบ้านหงส์ก็จัดจ้าน

ในขณะเดียวกันผจก.ทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ปั้น ลิเวอร์พูล เล่นเกมเยือนดีฤดูกาลนี้ อย่างในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ชนะได้ 6 จาก 11 ครั้ง

เหยื่อรายล่าสุดคือ บอร์นมัธ ที่โดนไป 4-0 ทาง ‘หงส์แดง’ก็หวังรักษามาตรฐานต่อในเกมวันพุธ 

ช่างต่างจากเมื่อฤดูกาล 2022-23 ที่เล่นทั้งซีซั่นก็ชนะนอกบ้าน 6 เกมเท่าตอนนี้ 

6. ล่าแชมป์ถึงสองหลัก

ลิเวอร์พูล อยู่ในสถานะเป็นทีมแรกที่ลุ้นได้แชมป์ลีก คัพ ถึง 10 สมัย โดยปัจจุบันก็ครองสถิติสูงสุดอยู่แล้วที่แชมป์ 9 หน ล่าสุดฤดูกาล 2021-22

กรณี ‘หงส์แดง’ หักด่าน ฟูแล่ม สำเร็จ ก็เข้าชิงชนะเลิศพบ เชลซี โจทย์เก่า คู่ชิงฯเมื่อ 2 ปีก่อน 

ผลงานยอดทีมแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์ในรายการนี้นับว่าถูกโฉลก เข้าถึงรอบรองฯ 19 จากการลงเล่น 58 ครั้ง, เป็นผู้ชนะ 13 จาก 18 หนที่ผ่านมา  

7. สถิติการเยือนคราเว่น ค็อตเทจ 

ฟูแล่ม ต้องชนะสถานเดียวเพื่อต่อหวังเข้าชิงฯ โดยหากผลต่าง 1 ลูกต่อเวลาพิเศษ แต่ถ้าขาดลอย 2 ลูกก็จะได้วัดกับ เชลซี ที่ไปคอยท่าอยู่ก่อน

แล้วมันจะเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ ‘เจ้าสัวน้อย’ ที่ได้ชิงแขมป์ลีก คัพ 

ทว่า ฟูแล่ม สถิติการพบ ลิเวอร์พูล ฐานะทีมเหย้าไม่ดี หนล่าสุดที่ทำได้ย้อนไปกว่า 13 ปี 

ครั้งนั้น ‘เจ้าสัวน้อย’ เฮ 1-0 เมื่อปี 2011 ด้วยประตูชัยท้ายเกมโดย คลินต์ เดมพ์ซี่ย์, มี แดนนี่ เมอร์ฟี่ อดีต ‘หงส์แดง’ ร่วมสังกัด แล้วมันพอให้ทีมของผจก.ทีม มาร์ติน โยล คว้าสามแต้ม 

8. โอกาสทำผลงานชนะ6นัดติด

ลิเวอร์พูล ผลงานน่าประทับใจชนะมาต่อเนื่อง 5 นัดทุกรายการ ณ ปัจจุบัน 

การมาเยือน ฟูแล่ม ผลเสมอเพียงพอให้ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผ่านเข้าชิงฯเดือนหน้า แต่หากชนะได้จะช่วยประกาศศักดาต่อยอดความมั่นใจ  

9. ไม่ใช่ผู้ตัดสินคนโปรด-ไร้วีเออาร์  

ไซม่อน ฮูเปอร์ คือผู้ตัดสินเกมนี้ คนเดียวกับที่ปฏิเสธประตูของ หลุยส์ ดีอาซ เกมพบ สเปอร์ส เมื่อพ.ย. 2023 

โดยนัดนี้เขาอาศัยดุลยพินิจตัวเองล้วนๆเมื่อไม่มีการใช้เทคโนโลยี วีเออาร์ 

ความตั้งใจเดิมของฝ่ายจัดอยากให้มีการใช้วีเออาร์ในรอบรองฯ แต่เมื่อ 1 จาก 4 ทีมที่มาถึงรอบนี้คือ มิดเดิ้ลสโบรช์ ทีมระดับชปช.อังกฤษ ไม่ได้ติดตั้งเพราะแข่งลีกรอง 

ทำให้คงต้องรอถึงนัดชิงฯเราจึงจะได้วีเออาร์มาช่วยตัดสิน 

ส่วนทีมงานของ ฮูเปอร์ คือ เอเดรี่ยน โฮล์มส์ กับ ไซม่อน ลอง เป็นไลน์แมน, ผู้ตัดสินที่ 4 โทนี่ แฮร์ริงตัน 

10. ช่องทางติดตามเกม

มีถ่ายทอดสดทางไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32 หรือช่องทางธรรมชาติตามสะดวก