หลังบรรลุข้อตกลงคว้าตัว อัสนาวี มังกูอารัม
แบ็กขวา ขาลุยรายนี้จะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของ การท่าเรือ เอฟซี ในครึ่งฤดูกาลหลังนี้ ส่วนจะเป็นกำลังหลักในชุด 11 ตัวจริงหรือไม่นั้น คู่แข่งเขาคือ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ แบ็กขวาทีมชาติไทยในเวลานี้
การได้ลงสนามมากหรือน้อย อยู่ที่การรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ การโชว์ฟอร์มว่าจะเตะลูกกะตา รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค มากแค่ไหนด้วยเช่นกัน
และนี่คือ 5 เหตุผลที่เรามองว่าการมาของ อัสนาวี จะช่วยเติมเต็มให้กับ การท่าเรือ และเป็นดีลที่ การท่าเรือ มีแต่ได้กับได้
ของฟรี
การท่าเรือ ถูกภาพจำการเป็น “เจ้าบุญทุ่ม” ในการดึงตัวนักเตะเข้าทีม แต่เคสของ อัสนาวี สิงห์เจ้าท่าแทบไม่ต้องจ่ายค่าตัวสักบาท
สาเหตุคือ อัสนาวี หมดสัญญากับ ชอนนัม ดราก้อนส์ พอดี ทำให้สามารถเจรจากับสโมสรใหม่ได้เลย แม้ทาง การท่าเรือ จะต้องออกแรงแย่งตัวกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่สุดท้ายตัวนักเตะได้เลือกที่จะอยู่ในเมืองหลวงของกรุงเทพฯ
สิ่งที่การท่าเรือเสียคือ ค่าเซ็นสัญญาในหลักไม่สะเทือนขนหน้าแข้งมาดาม และค่าเหนื่อยที่ไม่ได้โอเวอร์หรือสูงเกินเพดาน
เสริมถูกจุด
การปล่อยตัว นาคิน วิเศษชาติ (เชียงใหม่) กับ ทิตาธร อักษรศรี (ตราด เอฟซี) ทำให้ การท่าเรือ เหลือผู้เล่นที่เป็นแบ็กขวาธรรมชาติ แค่เพียง ศุภนันท์ บุรีรัตน์ คนเดียวเท่านั้น
อีกทั้งตัว อัสนาวี สามารถโยกมาเล่นแบ็กซ้ายได้ด้วย แม้จะมีทาง เควิน ดีรมรัมย์ กับ จตุรพัช สัทธรรม อยู่แล้วก็ตาม
ทำให้การมาของ อัสนาวี ยิ่งเป็นผลดีกับท่าเรือ ทั้งในแง่การเกาถูกจุด เสริมในตำแหน่งที่ควรเสริม อีกทั้งยังทำให้เกิดการแข่งขันในทีมสูงด้วย เพราะศักยภาพผู้เล่นถือว่าไล่เลียกัน ทดแทนกันได้ อยู่ที่โค้ชจะหยิบจับใครลงเล่นเท่านั้น
โควตาอาเซียน
อัสนาวี เป็นชาวอินโดนีเซีย นั่นทำให้การมาของเขาจะไม่กระทบอะไรต่อโควตาต่างชาติในรั้ว แพม สเตเดียม แต่อย่างใด เพราะสามารถสวมชื่อลงเล่นในฐานะโควตาอาเซียนได้เลย ไม่ต้องไปคอยแย่งตำแหน่งโควตา กับผู้เล่นต่างชาติรายอื่น ๆ
ประสบการณ์ + อายุใช้งาน
เห็นดูภายนอกเก๋า ๆ อย่างนี้ แต่ อัสนาวี เพิ่งอายุ 24 ปีเท่านั้น ในโลกฟุตบอลคือการเพิ่งก้าวผ่านการเป็น “ดาวรุ่ง” มาไม่นาน ในแง่อายุการใช้งาน การท่าเรือ ยิ้มได้ เขาสามารถลงเล่นเป็นกำลังหลักไปได้อีกหลายฤดูกาล
แต่อย่างที่บอกไปว่า แม้อายุยังไม่มาก แต่ประสบการณ์เจ้าตัวปึ้กระดับหนึ่ง จากการค้าแข้งนอกประเทศ และการลงเล่นระดับทีมชาติไปกว่า 40 เกม
อัสนาวี ลงเล่นในเคลีก 2 เกาหลีใต้มากกว่า 2 ฤดูกาล กับ อานซาน กรีนเนอร์ส และ ชอมนัม ดราก้อนส์ มีเกมลงเล่นไม่ต่ำกว่า 60 นัด ฉะนั้นในแง่กระดูกฟุตบอล ความดุดันในเกมรับ ความนิ่ง ได้ใจแฟนสิงห์เจ้าท่าแน่
การตลาด
การคว้าตัว อัสนาวี มาร่วมทัพยังส่งผลดีกับ การท่าเรือ ในแง่ของ การตลาดด้วย เพราะแบ็กขวารายนี้ถือเป็นระดับ “ซุป’ตาร์” ของชาวอินโดนีเซีย มียอดผู้ติดตามมากมาย
เอาแค่อินสตาแกรม อัสนาวี ปัจจุบัน มียอดผู้ติดตามมากถึง 3.8 ล้าน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่ายอดผู้ติดตามของนักเตะ การท่าเรือ ทั้งทีมรวมกัน หรือหากนำไปเทียบกับทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรม ของ “คุณแป้ง” อัสนาวี ก็ยังมากกว่าอยู่ดี
แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือ ชาวอินโดนีเซีย จะเข้ามาติดตาม การท่าเรือ มากขึ้นแน่ ๆ ทั้งจากข่าวสารแฟนเพจสโมสรการท่าเรือ หรือการโปรโมตข่าวของ อัสนาวี ในช่องทางสื่ออื่น ๆ ของอินโดนีเซีย
