:::     :::

เจาะลึก เซลจ์โก้ บูวัช ถึงเวลารึยังกับการเปิดตัว

วันศุกร์ที่ 04 พฤษภาคม 2561 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
3,566
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ทันทีที่ข่าวแยกทางกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ และ ลิเวอร์พูล หลุดออกมา เซลจ์โก้ บูวัช ก็กลายเป็นหนึ่งในโค้ชเนื้อหอมที่หลายสโมสรต้องการตัว
         โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ อาร์เซน่อล ที่กำลังมองหาตัวแทนของ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่กำลังจะอำลาทีมในช่วงซัมเมอร์นี้
         แม้ว่าที่ผ่านมาทัพปืนใหญ่จะตกเป็นข่าวกับบรรดากุนซือชื่อดังทั้งหลาย และแฟนบอลคงอยากเห็นผู้จัดการทีมระดับ "อ๋อง" มารับงานในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมมากกว่า
         แต่ทว่าเมื่อเอ่ยถึงชื่อของผู้ช่วยเทรนเนอร์ชาวบอสเนียรายนี้ต้องบอกว่าประวัติไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพียงแต่ในฐานะ "ผู้ช่วย" ทำให้ชื่อเสียงอาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก
         ตลอดระยะเวลากว่า 17 ปีที่ติดตามนายใหญ่ชาวเยอรมันในฐานะมือขวามาตั้งแต่ ไมนซ์ เรื่อยมาจนถึง ดอร์ทมุนด์ และ ลิเวอร์พูล ต้องบอกว่าความสำเร็จของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ว่าจะแชมป์บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล, ซูเปอร์ คัพ เยอรมัน หรือกับทีมหงส์แดงล้วนแล้วแต่มีผู้ช่วยคนนี้นี่แหละเป็นส่วนสำคัญ
         ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดที่ทำให้ บูวัช ต้องแยกทางกับ ลิเวอร์พูล แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาคือหนึ่งในโค้ชที่มีคนให้ความสนใจดึงตัวไปทำงานในฐานะผู้จัดการทีม 
         วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับชายที่ชื่อ เซลจ์โก้ บูวัช จากนักฟุตบอลไร้ชื่อเสียงเรียงนาม ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งมือขวาทรงอิทธิพล และอาจจะเป็นผู้จัดการทีมเต็มตัวก็เป็นได้
เริ่มต้นอย่างเงียบๆ

          อดีตกองกลางตัวรุกเกิดเมื่อปี 1961 ในเมืองโอมาร์สก้า ประเทศยูโกสลาเวีย (เดิม) เริ่มต้นอาชีพกับ รูดาร์ ก่อนที่จะมาโด่งดังกับ โบรัช กระทั่งโยกมาเล่นในเยอรมันกับ แอร์ฟวร์ต และ ไมนซ์ ในช่วงปี 1991-1995 แม้ว่าจะได้แค่ค้าแข้งอยู่ในลีกา สองแต่กับ ไมนซ์ เขาได้สร้างความสัมพันธ์ที่จะพาให้เขาก้าวไปสู่จุดสูงสุดของเกม
         "ในฐานะนักเตะ เขารู้อยู่เสมอว่าฝ่ายตรงข้ามคิดอะไรอยู่" อันสการ์ บริงค์มันน์ ที่เล่นเคียงข้าง บูวัช ที่ ไมนซ์ อยู่สองปี กล่าว
         "เขาสามารถอ่านเกมได้และถ้าบอลอยู่ในการครอบครองของ เขาสามารถตัดสินใจที่สมบูรณ์ใน 4 จาก 5 ครั้ง เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมมากๆ"
พันธสัญญา

         ใกล้กับสังเวียนเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ข้อตกลงที่โด่งดังซึ่งงทำขึ้นเพื่อปรับโฉมในทางการเมืองของอังกฤษเกือบสองทศวรรษ บนถนนอัพเพอร์ สตรีท ทางสัญจรของบรรดาผู้มีอันจะกินจาก แองเจิล ทูบ สเตชั่น ไปจนถึง ไฮก์บิวรี่ และ ไอลิงตัน, โทนี่ แบลร์ และ กอร์ดอน บราวน์ พบกันที่ร้านอาหาร แกรนิต้า ในปี 1994 ที่นี่การตกลงที่จะแบ่งปันกำลัง, บราวน์ อนุญาตให้ แบลร์ สามารถหาเสียงได้ในการเลือกตั้งผู้นำแรงงานด้วยความเข้าใจตรงกัน แต่ทว่าในที่สุดพันธมิตรของพวกเขาจบลงที่ถนนสายแฟชั่นแห่งนี้
         เช่นเดียวกับกับที่ ไมนซ์ ในช่วงเวลาที่แทบจะตรงกัน นักเตะสองคนที่มีความทะเยอทะยานกำลังวางแผนในการเป็นโค้ชในอนาคต
         "เราได้ตกลงกันแล้วในตอนนั้น" คล็อปป์ เปิดเผย
         "ใครก็ตามที่ได้ทำงานในตำแหน่งโค้ชก่อน ต้องเลือกอีกคนเพื่อมาทำหน้าที่ผู้ช่วย"
         หลังจากนั้น คล็อปป์ ยังค้าแข้งกับ ไมนซ์ ต่อไปในขณะที่ บูวัช ย้ายไปอยู่กับ นอยเคิร์ชเช่น ในลีกล่างเมื่อปี 1995 และในปี 2001 เมื่อ คล็อปป์ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีม ไมนซ์ เขาก็รักษาคำพูดด้วยการดึง บูวัช เข้ามายืนเคียงข้าง
         ด้วยการประสานงานของทั้งคู่ ไมนซ์ สามารถเลื่อนชั้นสู่บุนเดสลีกา และแรงถึงขนาดก้าวผ่านไปเล่นในยูฟ่า คัพเมื่อปี 2005/06 แต่ช่วงเวลาที่สุดยอดเกิดขึ้นที่ ดอร์ทมุนด์ ที่เราได้เห็น "คล็อปป์ ซิสเทม" และ บูวัช ก็คือส่วนสำคัญ
หยิน และ หยาง

         เมื่อ คล็อปป์ ได้งานที่ ดอร์ทมุนด์ ในปี 2008 เขาไม่ลังเลที่จะดึง บูวัช มาเป็นทีมงานเช่นเคย 
         "แน่นอนผมต้องการให้ บูวัช มาเป็นโค้ชของผม" ฮารัลด์ สตรูตซ์ ประธานสโมสรไมนซ์ เอ่ย
         "แต่มันชัดเจนว่า คล็อปป์ ต้องการที่ดึงเขาไปร่วมงานที่ ดอร์ทมุนด์ ด้วย เราเข้าใจข้อนี้"
         คล็อปป์ พัฒนาขึ้นต่อเนื่องและในขณะเดียวกันเขาก็ไว้วางใจ บูวัช เป็นอย่างมาก เพราะการทำงานของทั้งคู่นั้นเสริมกันอย่างยอดเยี่ยม คล็อปป์ เข้าสังคม โบวัช เก็บตัว, คล็อปป์ มักระเบิดอารมณ์ระหว่างเกม บูวัช ดูการซ้อมจากมอนิเตอร์ด้วยสายตาที่แหลมคม ทุกอย่างก่อตัวขึ้นในช่วงที่ทั้งคู่เล่นด้วยกันที่ ไมนซ์
         "ในฐานะนักเตะ พวกเขาคือคนสำคัญของผม" สตรูตซ์ กล่าว
         "คล็อปป์ จะปลุกเร้าทีมด้วยวิธีของเขา ส่วน บูวัช เขาจะแสดงออกในเกม"
         ในงานโค้ช ทั้งคู่ก็เป็นเหมือนกับธาตุหยินและหยางเช่นกัน จะไม่มีการยืนเป็นนายคนเดียวในการซ้อมที่ดอร์ทมุนด์
         "ทั้งคู่จะอยู่กับนักเตะเสมอ" มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ เคยกล่าวเอาไว้
         "บูวัช จะมีไอเดียเรื่องแท็คติคมากมายในการซ้อม หากมีอะไรผิดพลาดหรือเราก่อความผิดพลาด ยกตัวอย่างนะ โดยปกติแล้วเขาจะเป็นคนที่จะเข้ามาหยุดเกมและอธิบายวิธีที่ถูกต้อง"
          ปีเตอร์ คราเวียตซ์ อีกหนึ่งผู้ช่วยของ คล็อปป์ ที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ ไมนซ์, ดอร์ทมุนด์ เรื่อยมาจนถึง ลิเวอร์พูล เคยกล่าวถึง บูวัช ว่า "เขามักจะมีมุมมองในระหว่างการซ้อมทั้งหมด เช่นเดียวกับในเกมซึ่งเข้าได้ระบุถึงการพัฒนาและแก้ปัญหาเรื่องแนวทางการเล่นอย่างรวดเร็วให้กับ เจอร์เก้น"
         เขาคือคนที่นำเสนอแนวทางการเล่นแบบเพรสซิ่ง โค้ชชาวบอสเนียนรู้ดีว่าการครอบคลุมระยะทางระหว่างองค์ประกอบที่แตกต่างกันของทีม มั่นใจว่าการผ่านบอลจะเป็นไปอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นคุณลักษณะเด่นในระบบของ คล็อปป์ ซึ่งทาง บูวัช มีส่วนร่วมในการสอนนักเตะ
         ในช่วงปรีซีซั่นที่แคมป์ของ ดอร์ทมุนด์ เขามักจะสั่งให้ผู้เล่นฝึกซ้อมด้วยการไปกับบอลเป็นเวลา 45 นาที ซึ่งตัวเองก็เข้าร่วมด้วยเพื่อความรัดกุม ครั้งหนึ่งนายใหญ่ชาวเยอรมันเคยกล่าวถึงเพื่อนผู้เป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกา รวมถึงผ่านเข้าชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกว่า "เซลจ์โก้ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหาอะไรใหม่"
บุรุษผู้เงียบขรึม

         ชายผู้มีโทนเสียงที่ต่ำและพูดน้อยยามแถลงข่าวกับสื่อ บูวัช อาจจะมีจิตวิญญาณในความเป็น อาร์เซน่อล คือความ 'เงียบ' ด้วยภาพลักษณ์ที่สันโดด มีความสุขกับการได้ทำงานอยู่นอกการจับตา ทำให้โลกภายนอกไม่ค่อยรู้จักเขาเท่าไรนักหากไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมงานเขา
         บูวัช มักจะหลีกเลี่ยงการพูดกับสื่อเมื่อครั้งที่ คล็อปป์ ถูกแบนในเกมกับ มาร์กเซย ในแชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อปี 2013 ปล่อยให้เพื่อนต้องรับความกดดันในการพูดคุยกับสื่อ โดย คล็อปป์ สามารถแถลงข่าวก่อนการแข่งขันได้
         "จากนั้นผมต้องออกจากทีมก่อนการ แต่ 15 นาทีหลังจากเริ่มเกมผมได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องแถลงข่าวได้"
         บูวัช พูดต่อหน้าสื่อเพียงหนเดียวเท่านั้น โดยเป็นการพูดกับแฟนบอลดอร์ทมุนด์ในที่สาธารณะและเป็นการคุยแบบง่ายๆ 
         "ผมจะพูดก็ต่อเมื่อผมมีอะไรจะพูดเท่านั้น ในการทำงานของเราไม่จำเป็นต้องมีคนมาพูด 2-3 คน มันมากเกินไป" 
         ด้าน นูริ ซาฮิน อดีตลูกทีมดอร์ทมุนด์เอ่ยถึง บูวัช ว่า "บูวัช เป็นคนใจเย็นมาก จนกว่าจะมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา"
         ถึงตอนนี้ยังคงเป็นปริศนากันอยู่กับอนาคตของผู้ชายที่ชื่อ เซลจ์โก้ บูวัช ว่าจะไปในทิศทางไหน แต่ถ้ารายงานเป็นจริงและ อาร์เซน่อล ตัดสินใจว่าเขาคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเป็นตัวแทนของ อาร์แซน เวนเกอร์ (แม้ว่าจะมีข่าวว่าเจ้าตัวได้คุยกับทาง แฟร้งค์เฟิร์ต ทีมในบุนเดสลีกา) เขาก็ถือเป็นโค้ชคนหนึ่งที่มีฝีมือในวงการ
         ถึงเวลารึยังที่โลกจะได้รู้จัก เซลจ์โก้ บูวัช ในฐานะกุนซือตัวจริง ไม่ใช่แค่มือขวาของใครอีกต่อไป


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด