นัดนี้ มิลาน ส่ง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าจอมเก๋าที่เพิ่งหายเจ็บ ลงตัวจริงแทน ราฟาเอล เลเอา ส่วน โตริโน่ ที่เพิ่งพ่ายต่อมิลาน 0-2 ในเกมลีกสุดสัปดาห์ ก็ต้องมาเยือนอีกรอบในรายการนี้ 

ในครึ่งแรก มิลาน มีโอกาสลุ้นจะแจ้งสองครั้งจากการยิงไกลของ ดาวิเด้ คาลาเบรีย ที่ วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช นายทวารโตริโน่ออกต้องแรงเซฟ และอีกครั้งจาก อิบราฮิโมวิช ได้วอลเลย์ข้ามคาน 

ส่วนโอกาสของ โตริโน่ ได้ลุ้นจาก อาเมอร์ โกยัค แต่ก็ติดเซฟของ ซีเปรียน ตาตารูวานู นายทวารสำรองมิลานที่ได้ลงตัวจริง

ครึ่งหลัง มิลาน มีโอกาสสองครั้งซ้อนที่จะได้เริ่มจากนาที 57 คาบาเบรีย ได้กดเส้นๆ ติดเซฟของ มิลินโควิช-ซาวิช  บอลเด้งเข้าทาง ดีเอโก้ ดาโลต์ ได้ตามซ้ำแต่ก็เข้าข้างตาข่าย 

นาที 73 มีจังหวะปัญหาเมื่อ มิลินโควิช-ซาวิช กับ ราฟาเอล เลเอา ที่ลงสำรองพัวพันแย่งบอลในเขตโทษจนล้มทั้งคู่ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ที่อยู่ข้างสนามจึงโวยหนักทำให้ได้ใบแดงไล่ออกและจะถูกแบนในรอบหน้าของรายการนี้ 

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นจนครบ 90 นาที ต้องต่อเวลาอีก 30 นาที ที่ก็ยังไม่ไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้ สุดท้ายต้องตัดสินกันที่การดวลจุดโทษ 

ในช่วงการดวลจุดโทษ มิลาน ยิงเข้าหมดใน 5 คนแรกคือ ฟร้องค์ เกสซีเย่, เตโอ แอร์กน็องเดซ, ซานโดร โตนาลี่, อเลสซิโอ โรมันโยลี่ และ ฮาคาน ชาลาโนกลู ส่วน โตริโน่ พลาดไปหนึ่งคนคือ โธมัส รินคอน โดยที่ วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช นายทวารของทีมก็ยิงด้วยและเข้า ทำให้ มิลาน ชนะไป 5-4 ได้ผ่านเข้ารอบก่อนรองฯ ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง อินเตอร์ มิลาน กับ ฟิออเรนติน่า