แอลเอ เลเกอร์ส แผ่วในช่วงควอเตอร์สุดท้ายจนถูก ยูท่าห์ แจ๊ซ ตามตีเสมอ 110-110 ลากเกมเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษก่อนทัพ 'ม่วง-ทอง' จะเป็นฝ่ายกำชัยด้วยสกอร์ 127-115 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามรายงานจากอีเอสพีเอ็น

เลเกอร์ส เป็นฝ่ายนำมาตลอดช่วง 3 ควอเตอร์แรก ก่อนจะออกอาการแผ่วในช่วงควอเตอร์สุดท้ายที่ แจ็ซ ทำสกอร์ 28-16 ตามตีเสมอจนต้องต่อเวลาพิเศษ แต่ทีม 'ม่วง-ทอง' เร่งเครื่องทำ 17-5 ทะยานเข้าป้ายสำเร็จ

อันเดร ดรัมม่อนด์ ทำมากสุดของ เลเกอร์ส ด้วยการสกอร์ 27 คะแนน กับ 8 รีบาวน์ด ขณะที่ เดนนิส ชรูเดอร์ กับ เคนเทเวียส คัลด์เวลล์-โพ๊พ ทำคนละ 25 คะแนน ส่วน มาร์คีฟฟ์ มอร์ริส ทำ 10 คะแนน กับ 12 รีบาวน์ด นอกจากนี้ มอนเทรเซล แฮร์เรลล์ ยังลุกจากม้านั่งสำรองมาช่วยทำอีก 12 คะแนนกับ 7 รีบาวน์ด 

ส่วน แจ๊ซ ขาดดาราประจำทีมที่บาดเจ็บทั้ง โดโนแวน มิตเชลล์, ไมค์ คอนลี่ย์ กับ รูดี้ โกแบร์ ได้ จอร์แดน คล้าร์กสัน ทำมากสุด 27 คะแนน ขณะที่ เออร์ซาน อิลยาโซว่า ทำมากสุดในซีซั่น 20 คะแนน ส่วน โจ อิงเกิ้ลส์ ทำ 20 คะแนนกับ 14 แอสซิสต์ดีสุดอาชีพ 

'เราขาดผู้เล่นสำคัญ 4 คน' อิงเกิ้ลส์ กล่าวหลังเกม 'สำหรับเกมส่วนใหญ่ เราทำได้ดีทีเดียว เราอยู่ห่างจากการชนะเกมนี้เพียงจุดเดียว'

แต่ เลเกอร์ส ลงเล่นโดยปราศจากสองดาวดังอย่าง เลอบรอน เจมส์ กับ แอนโธนี่ เดวิส เช่นเดียวกัน นั่นทำให้ผู้มาใหม่อย่าง ดรัมม่อนด์ รวมถึง มอร์ริส อยู่ในกลุ่มตัวจริงพร้อม ชรูเดอร์, คัลด์เวลล์-โพ๊พ และ ไคล์ คูซม่า 

'เขาอยู่ในช่วงเวลานั้นเสมอ' มอร์ริส กล่าวถึง ชรูเดอร์ ที่ก้าวขึ้นช่วยแบกทีม 'คืนนี้เราต้องการให้เขาทำสกอร์มากกว่านี้ เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงท้ายเกม เรากำลังมาถึงจุดที่ทุกคนรู้จักเกมของกันและกัน เราต้องการความสนิทสนมกัน'

ส่วนเฮดโค้ชเลเกอร์ส แฟร้งค์ โวเกิ้ล กล่าวว่า 'เราทำการปรับเปลี่ยนในเกมมากกว่าที่เรามีตลอดทั้งปีเพื่อตอบโต้การโจมตีของพวกเขา การมีทีมกลับมาและเป็นผู้นำและเราไม่ตื่นตระหนกเป็นสิ่งที่เราสามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้ เราจะมีประสบการณ์นี้เพื่อให้รู้ว่าเราจะเหนือกว่า'