‘ลา รีพับบลิก้า’ อ้างว่าภายในสัปดาห์นี้สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) จะแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อขับทั้งสามค่ายซึ่งการันตีแข่งรอบแบ่งกลุ่ม ชปล.ฤดูกาลหน้า ให้พ้นสภาพทั้งหมด กรณีเกิดขึ้นจริงก็นับเป็นบทลงโทษขั้นรุนแรงแก่สโมสรมหาอำนาจในเวลาเดียวกัน 

ทั้ง 3 หัวโจกพร้อมอีกเก้าสโมสรชั้นนำได้แก่ แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, แมนฯ ซิตี้, อาร์เซน่อล, ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์, แอต.มาดริด, เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน เดิมมีแผนก่อตั้งการแข่งขันในหมู่ทีมใหญ่ด้วยกันเพื่อเรียกรับผลประโยชน์เองก้อนโตแบบไม่ผ่าน ยูฟ่า 

แต่เพราะถูกคัดค้านอย่างรุนแรงจากสื่อมวลชน, ผู้มีอำนาจในสมาคมฟุตบอล/สหพันธ์ฟุตบอลท้องถิ่น และสำคัญสุดคือแฟนบอลของตัวเอง ส่งผลให้ 9 ค่ายที่คิดร่วมก่อตั้งยอมถอนตัวออกมาพร้อมส่งหนังสือขอโทษอย่างเป็นทางการถึง ยูฟ่า แล้วยินดีร่วมกันบริจาคเงินจำนวน 15 ล้านยูโร (ราว 12.9 ล้านปอนด์) เพื่อสนับสนุนทีมฟุตบอลรากหญ้า

https://twitter.com/bartseeboob/status/1399929309670764545

คงเหลือแต่ 3 ตัวตั้งตัวตีที่มีท่าทีแข็งกร้าวไม่อ่อนข้อพร้อมท้าทายสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป ซึ่งประเด็นนี้ทาง เซนญอร์ ฆาเบียร์ เตบาส ปธ.ลา ลีกา สเปน และสมาชิกผู้บริหารระดับสูงของ ยูฟ่า ให้สัมภาษณ์ขู่ว่าบรรดาหัวโจกกำลังจะเจอไม้เรียว 

“มันคือบทลงโทษที่ทีมอย่าง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ต้องหนาวๆร้อนๆ - ผมก็ไม่อยากจินตนาการว่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ขาดสองทีมนั้นจะเป็นอย่างไร แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้” การเปิดปากผ่าน ‘อีเอสพีเอ็น’

“มากกว่าแค่บทลงโทษปกติ ยูฟ่า อาจถอดถอน มาดริด และ บาร์ซ่า ออกจาก ชปล. ผมคิดว่าทั้งสองทีมนั้นสมควรโดนเขี่ย พวกเขาเตรียมขนหัวลุกได้เลย” 

ด้านท่าทีจาก โจน ลาปอร์ต้า ปธ.สโมสร บาร์เซโลน่า ไม่กลัวบทลงโทษจาก ยูฟ่า กรณีโดนสั่งปรับเงินหรือขับพ้นแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็จะนำเรื่องไปอุทธรณ์กับศาลอนุญาโตตุลาการแห่งกีฬา (ซีเอเอส) ทำให้กว่าจะสิ้นสุดการพิจารณาคดีก็อีกอย่างน้อยหนึ่งซีซั่น