เดิมที มิทเชลล์ เกือบไม่ได้ลงสนามเพราะสตาฟฟ์รอเช็คอาการที่ข้อเท้าถึงนาทีท้ายจึงตัดสินใจส่งแข่ง ซึ่งการ์ดคอมโบก็แบกทีมสุดฤทธิ์กดไป  39 แต้ม, 9 รีบาวน์ด และเก้าแอสซิสต์จากเวลา 40 นาทีบนคอร์ท แต่ยังไม่มากพอเนื่องจากคู่แข่งใช้การรัน 40-12 คะแนนในครึ่งหลังทุบใส่มือหนึ่งฝั่งตะวันตก ฤดูกาลปกติจนเละ 

“มันยังเศร้าไม่ออกเพราะช็อคอยู่ …มันงงไปหมดจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าอาทิตย์ต้องทำอะไรดี” การเปิดปากกับ ‘ซอลต์เลก ทริบูน สปอร์ตส์’ 

https://twitter.com/sltribsports/status/1406253575093719042

“บางทีอาจขอกลับไปดูเกมที่บ้าบอนี้ บอกเลยว่าช่างเจ็บปวดกว่าตกรอบปีก่อนอีก มันคงกัดกินจิตใจผมไปอีกนาน” 

แจซ อุตส่าห์ขึ้นนำซีรี่ส์นี้ 2-0 เกม แต่กลายเป็นว่าสี่นัดหลังแพ้รวด เท่ากับว่าบอบช้ำไม่ต่างจากซีซั่นก่อนในเพลย์ออฟ รอบแรก ขึ้นแท่นเหนือ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ 3-1 เกม แต่ตอนจบร่วง 3-4 เกมซีรี่ส์ 

ด้าน รูดี้ โกแบร์ เซนเตอร์เจ้าของตำแหน่งผู้เล่นเกมป้องกันยอดเยี่ยมฤดูกาลปกติก็ปากสั่นเพราะตกรอบ โดยไม่สามารถรับมือกับแผนสมอล บอล ของ คลิปเปอร์ส ได้เลยตั้งแต่เกมสามซีรี่ส์เป็นต้นมา 

“เป็นอะไรที่เจ็บปวด เราอุตส่าห์มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม” เซนเตอร์เฟร้นช์แมนเสริม 

“เราคิดว่าอาวุธครบมือแล้วสำหรับล่าแชมป์ ดังนั้นตกรอบแบบนี้จึงเจ็บปวด ก็หวังว่าสามารถเรียนรู้จากความผิดหวังได้” 

จุดบอดของ แจซ คงเป็นการป้องกันแบ็คคอร์ทเพราะ ไมค์ คอนลี่ย์ การ์ดจ่ายที่หายเจ็บกล้ามเนื้อหลังเข่ากลับมาเล่นไม่ออกเลยมีแค่ 5 แต้ม, ฟิลด์โกลลง 1 จาก 8 หน, 3 แอสซิสต์, สองรีบาวน์ด แต่เสีย 6 เทิร์นโอเวอร์ ถูกการ์ด คลิปเปอร์ส สลับเผาจนเกรียม