ริโอ เฟอร์ดินานด์ นักวิเคราะห์ บีที สปอร์ต เปิดหมวกคารวะ ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง โดยเฉพาะประตูปิดกล่อง 2-0 ใส่ แมนฯ ซิตี้ รอบแบ่งกลุ่ม ชปล.วานนี้ว่านิยามความเป็นดีกรีบัลลง ดอร์ 6 สมัยได้อย่างดีแม้วัยวุฒิเข้าปีที่ 34
ประตูดังกล่าว เมสซี่ เลี้ยงโต้กลับกินแดนจากทางขวาด้วยความจี๊ดแล้วลากตัดเข้ากลางทำชิ่ง 1-2 กับ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ หน้าเขตโทษแล้วชิงเหลี่ยมเบียดชนะตัวประกบปั่นเท้าซ้ายจาก 22 หลาเสียบสามเหลี่ยม
ความงดงามแบบ 10 เต็ม 10 ไม่มีหักนี่เองที่ เฟอร์ดินานด์ บอกว่าคือเครื่องหมายการค้าของสตาร์อาร์เจนไตน์มาแต่ไหนแต่ไร
"มาครบตั้งแต่การเร่งความเร็ว, สมดุลร่างกาย และเทคนิค...การทำประตูแบบที่เขาเพิ่งแสดงออกมานั้นถือว่ามหัศจรรย์ " อดีตปราการหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดปาก
https://twitter.com/OptaJoe/status/1442960332184375303
"การวิ่งดึงตัวประกบไปทางขวาของ อาชราฟ ฮาคิมี่ ก็สำคัญด้วย เพราะเมื่อคุณมีผู้เล่นแบบ ฮาคิมี่ ที่สามารถสร้างความเสียหายกวนใจอยู่อีกคน กองหลังก็ทิ้งไม่ได้ ซึ่งนั่นเปิดทางให้ เมสซี่ นำประโยชน์ไปใช้"
ด้าน โอเว่น ฮากรีฟส์ คู่ร่วมบรรยายก็ชมการวิ่งทำทางของกองหลังโมร็อกกันเช่นกัน นอกจากการทำประตูของ เมสซี่
"มันมีอะไรมากกว่าประตูที่เกิดขึ้น ผมชอบการวิ่งอ้อมหลังไปของ ฮาคิมี่ เพราะมันช่วยเปิดพื้นที่ แล้ว เมสซี่ ก็เผด็จศึก"
"หมอนั่นถูกคาดหวังว่าจะสร้างผลงาน เป็นคนที่เกิดมาเล่นเกมใหญ่ ก็ไม่รู้ว่าทำไมมักทำประตูใส่ทีมที่มี โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุมบังเหียน"
"เกมเมื่อคือนับเป็นผลงานอันสมบูรณ์แบบของ เปแอสเช เพราะอย่างการเข้าทำประตูแรก มันมีพื้นที่ให้เปิด ฮาคิมี่ แล้ว เมสซี่ หุบเข้าใน แถมยังเห็น เนย์มาร์ กับ เอ็มบั๊ปเป้ ตรงนั้นอีก - การประสานงานสวยงาม"
"วันนี้พวกเขาวางหมากมาถูกต้อง แล้ว เมสซี่ ก็เก็บงานตอนจบ ด้วยการพังประตูสุดเหี้ยมนั้น"
เมสซี่ คู่ผู้เล่นที่ยิงประตูใส่ แมนฯ ซิตี้ บนรายการ ชปล.มากสุด (7 ประตู) แล้วเช่นกันขยันซัดใส่ทีมที่ กวาร์ดิโอล่า คุมไปแล้ว 7 ลูก (สองลูกใส่ บาเยิร์น มิวนิค, 5 ลูกใส่ ซิตี้)
