เจอร์เก้น คล็อปป์ ผจก.ทีม ลิเวอร์พูล ไม่ปิดบังความพอใจเรื่องขุมกำลังใช้งานในปัจจุบันว่าคือหงส์แดงเวอร์ชั่นตัวเลือกละลานตาไปหมดนับจากกุมบังเหียนเมื่อต.ค. 2015 ก็ตั้งเป้าล่าความสำเร็จทั้ง 4 รายการที่อยู่บนเส้นทางโดยเริ่มจากถอนแค้น เลสเตอร์ (10 ก.พ.)
คล็อปป์ ได้ หลุยส์ ดีอาซ มาเสริมเกมรุกช่วงตลาดม.ค.ที่ผ่านมา เมื่อบวกจะได้สองกองหน้า โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ กลับจาก แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์, ไร้ปัญหาแข้งสำคัญบาดเจ็บยาว แถมกองกลาง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ฟื้นเดี้ยงอีก
ทำให้บอสวัย 54 ปีประกาศท้าล่าทุกถ้วยรางวัล ซึ่งจะทำได้ก็ต้องปราบ ฟ็อกซ์ ที่กำลังระส่ำเพราะแพ้บอลลีกรองตกรอบ เอฟเอ คัพ ให้ได้เสียก่อน
“ในทางที่ผมรู้จัก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เชื่อว่าเขาอยากเห็นลูกน้องทำผลงานแก้ตัว นั่นคือเรื่องหนึ่งที่กังวล” คล็อปป์ เตือนผู้เล่น ลิเวอร์พูล ห้ามประมาทเพราะเคยพ่ายที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม มาแล้ว 0-1
“นั่นคือทีม เลสเตอร์ ที่เห็นมาเสมอไม่ใช่ เลสเตอร์ ที่เพิ่งแพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์”
“ส่วนการลุ้นความสำเร็จ 4 รายการนั้นถือเป็นหนแรกในชีวิตเพราะที่เยอรมันเต็มที่ 3 รายการ”
“แน่นอนว่านี่คือขุมกำลังที่แข็งแกร่งสุดตั้งแต่ผมคุมทัพ ไร้ข้อกังขาเรื่องนั้น เพราะหากไม่ใช่นั่นหมายความว่าเราปวกเปียกลงจากปีก่อนๆ”
“เอาจริงๆเรามีขุมกำลังที่แกร่งมาเสมอ เพียงแค่ไม่เคยมีลุ้นถึงสี่รายการแบบปีนี้มาก่อน ผมเคยพูดถึงเรื่องดังกล่าวที่ยังอยู่บนเส้นทางเป็นกระบุงเนื่องเพราะเหตุผลต่างกันไป”
“จังหวะเวลาคือสิ่งสำคัญของวงการฟุตบอล ยกตัวอย่างหากคุณทำได้ดีในเดือนธันวาคม แต่ถ้าขับไปแบบสามล้อก็จะติดหล่มในมกราคม”
“ใครก็ตามที่พร้อมแข่งคุณก็ต้องยัดลง 11 ตัวจริงและสำรองอีกสามคน ดังนั้นขุมกำลังขนาดใหญ่หากมองภาพระยะสั้นมันไม่มีความสำคัญเท่าไหร่”
“แต่ถ้ามองระยะกลางหรือระยะยาว มันสำคัญอย่างยิ่งยวด ก็หวังว่าในช่วงนี้เราจะได้ใช้งานจริงๆจังๆ”
https://twitter.com/footballdaily/status/1491410087503663106
“มีถึง 12 นัดให้ลงสนามในช่วงเวลาข้างหน้า; นั่นหมายความว่าเตะทุกสามวัน - นั่นงานหิน”
“ดังนั้นยิ่งมากคุณภาพและมากประสบการณ์ ก็เพิ่มโอกาสชนะเกมหากสามารถสร้างผลงานแบบที่เคยทำ”
คิวแข่งสำคัญๆของ ลิเวอร์พูล จากนี้เช่นนัดชิงฯ คาราบาว คัพ กับ เชลซี, ชปล.รอบ 16 ทีมพบ อินเตอร์ มิลาน, เอฟเอ คัพ รอบห้ากับ นอริช หรือเกมเปิดบ้านดวลกลุ่มหัวตารางบอลลีกอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ เวสต์แฮม
