ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก

นัดชิงชนะเลิศ

เชลซี (อังกฤษ) 1 - พัลเมรัส (บราซิล) 1

(ต่อเวลาพิเศษ เชลซี ชนะ 2-1)

สนาม : โมฮัมเหม็ด บิน ซาเย็ด สเตเดี้ยม

เริ่มเกมมา 5 นาที พัลเมรัส ได้ลุ้นก่อน เมื่อ กุสตาโว่ สคาร์ปา เปิดจากกราบซ้ายไปให้ โรนี่ ได้ยิงเต็มแรง แต่บอลข้ามคานออกไป

นาทีที่ 16 เป็นโอกาสของ เชลซี บ้าง เมื่อ เมสัน เมาท์ ได้ปั่นฟรีคิก แต่บอลก็ไม่ตรงกรอบ

เชลซี เริ่มครองเกมได้เหนือกว่าแล้ว ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกมาก็ได้ลุ้นจาก ไค ฮาแวร์ตซ์ และ โรเมลู ลูกากู แต่ก็หลุดกรอบไปอีก และก็ไม่ผ่านมือ เวเวอร์ตอน ด้วย

ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เชลซี มีโอกาสดี คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย เปิดไปให้ ติอาโก้ ซิลวา ได้โหม่งจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ เวเวอร์ตอน ยังปัดออกหลังไปได้

ครึ่งหลัง นาทีที่ 55 เชลซี มาออกนำ 1-0 เมื่อ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย เปิดไปให้ โรเมลู ลูกากู โหม่งตุงตาข่ายไม่เหลือ

อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 64 พัลเมรัส มาได้จุดโทษ เมื่อ ติอาโก้ ซิลวา ไปฟาวล์ใส่ เซ ราฟาเอล ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ ก่อนที่ ราฟาเอล เวก้า จะสังหารเข้าไปไม่พลาดส่งสกอร์เป็น 1-1

จากนั้น ทั้งสองทีมก็เล่นกันแบบระวังตัว จบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ

ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งสองทีมก็มีโอกาสน้อย แต่นาทีที่ 111 เชลซี ได้ลุ้น เมื่อ คริสเตียน พูลิซิช จ่ายไปให้ ทิโม แวร์เนอร์ ได้ยิงด้วยวา แต่ไม่เข้ากรอบ

นาทีที่ 117 สิงห์บลูส์ มาได้จุดโทษ เมื่อ ลูอัน ไปทำแฮนด์บอล ก่อนที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ จะสังหารเข้าไปไม่พลาดให้ เชลซี นำ 2-1

นาทีที่ 120+6 พัลเมรัส ต้องมาเหลือ 10 คน เมื่อ ลูอัน การ์เซีย โดยใบแดงไล่ออกไป จบ 120 นาที เชลซี เฉือนชนะ 2-1 คว้าแชมป์สโมสรโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรได้สำเร็จ

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เชลซี : เอดูอาร์ เมนดี้ - อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย - เมสัน เมาท์, ไค ฮาแวร์ตซ์ - โรเมลู ลูกากู

พัลเมรัส : เวเวอร์ตอน - มาร์กอส โรช่า, ลูอัน, กุสตาโว่ โกเมซ, ฮัวกิน ปิเกเรซ, กุสตาโว่ สคาร์ปา - โรนี่, ดานิโล่, เซ ราฟาเอล, ดูดู้ - ราฟาเอล เวก้า