ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้ เนย์มาร์ หายเจ็บกลับมาสำรอง โดยที่ อังเคล ดิ มาเรีย ได้ลงเล่นก่อนในแนวรุกร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ส่วน เรอัล มาดริด มีข่าวดีเช่นกัน คาริม เบนเซม่า หัวหอกตัวเก่งฟิตกลับมาลงตัวจริงอีกครั้ง

เริ่มเกมมา 5 นาที เจ้าถิ่นเปแอสเชมีโอกาสทักทายก่อนจากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย ได้ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ว่าไม่เข้ากรอบ

เปแอสเช หาโอกาสได้อีกในนาที 17 ลิโอเนล เมสซี่ หยอดบอลให้ คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ เบียดชนะตัวประกบก่อนยิงด้วยซ้าย แต่ว่าวางเท้าไม่ดีจึงยิงบอลไปติดขา  ติโบต์ กูร์กตัวส์ ออกหลังไป และจากจังหวะเตะมุม ดานีโล่ เปเรยร่า ได้โหม่งแต่เบาไป กูร์กตัวส์ รับเอาไว้ได้

เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายครองบอลและทำเกมรุกได้เหนือกว่าชัดเจน แต่ทีมเยือนก็ตั้งรับได้ดี ทำให้ปิดโอกาสทำประตูได้เกือบตลอด 

นาที 37 กาเซมีโร่ ได้ใบเหลืองแรกของเกมหลังไปสอย เลอันโดร ปาเรเดส จากด้านหลัง ทำให้นัดหน้าที่สเปนจะไม่สามารถช่วยทีมได้เพราะคาดโทษอยู่ก่อนแล้ว

ท้ายครึ่งแรก เรอัล มาดริด มีโอกาสบ้างจากเตะมุมที่ กาเซมีโร่ ได้โหม่ง แต่บอลไม่เข้ากรอบ ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0 

ครึ่งหลัง เปแอสเช เริ่มต้นคึกคัก เอ็มบั๊ปเป้ ทำชิ่งกับ ฮาคิมี่ ก่อนหวดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ กูร์กตัวส์ ยังป้องกันเอาไว้ได้

เปแอสเช ลุยต่อและมีโอกาสในนาที 53 เอ็มบั๊ปเป้ จ่ายให้ เมสซี่ ตั้งป้องซัดไกลด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ บอลยังไม่ห่างตัว กูร์กตัวส์ ที่รับเอาไว้ได้ไม่พลาด

เจ้าถิ่นเดินหน้าไม่ยั้ง เอ็มบั๊ปเป้ ได้บอลหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนปั่นด้วยขวาหนีตัวบล็อก ทว่าก็ยังไม่ดีพอที่จะผ่านมือ กูร์กตัวส์

นาที 62 ติโบต์ กูร์กตัวส์ เซฟสำคัญได้อีกครั้งเมื่อป้องกันจุดโทษของ ลิโอเนล เมสซี่ เอาไว้ได้อย่างสุดยอดหลังจาก คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ โดน ดาเนียล การ์บาฆาล เสียบทำฟาวล์

อีก 11 นาทีถัดมา เปแอสเช แก้เกมส่ง เนย์มาร์ ที่เจ็บไปสองเดือนกว่าลงสนามแทน ดิ มาเรีย ส่วน มาดริด ก็มี โรดริโก้ ลงแทน มาร์โก อาเซนซิโอ้

เกมทำท่าว่าจะจบด้วยผลเสมออยู่แล้ว แต่ช่วงทดเจ็บ เนย์มาร์ ตอกส้นให้ คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้บอลฝั่งซ้ายก่อนเลี้ยงแหวกผู้เล่นมาดริด 2 คนเข้าเขตโทษแล้วยิงมุมแคบส่งบอลลอดขา กูร์กตัวส์ เข้าไปอย่างสุดยอด ทำให้จบเกม เปแอสเช เอาชนะไป 1-0 ส่วนนัดสองที่สเปนจะมีขึ้นในวันพุธที่ 9 มีนาคม