ลีกเอ็นเอฟแอล และ เอ็นเอฟแอลพีเอ (สมาคมผู้เล่นเอ็นเอฟแอล) ตกลงที่จะหยุดทุกด้านของโปรโตคอล 'โควิด-19' ร่วมกัน โดยจะมีผลทันที หลังผ่านการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะมานานเกือบ 2 ปี ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา 

ตามรายงานจาก ทอม เพลิสเซโร่ ผู้สื่อข่าวเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์คระบุว่า เอ็นเอฟแอล และ เอ็นเอฟแอลพีเอ ตกลงยกเลิกโปรโตคอล 'โควิด-19' ร่วมกันตั้งแต่บัดนี้ เนื่องจากไม่มีข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับหน้ากาก, อุปกรณ์ติดตาม, การทดสอบการเฝ้าระวัง หรือข้อจำกัดด้านสมรรถภาพ เว้นแต่จะถูกกำหนดโดยกฎหมายของรัฐหรือท้องถิ่น

'บนพื้นฐานของแนวโน้มการแพร่ระบาดและความรุนแรงของโควิด-19 คำแนะนำที่พัฒนาขึ้นจาก ซีดีซี การเปลี่ยนแปลงกฎหมายของรัฐและที่ปรึกษาของผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องของเรา เอ็นเอฟแอล และ เอ็นเอฟแอลพีเอ ได้ตกลงที่จะระงับทุกแง่มุมของโปรโตคอลโควิด-19 ร่วมกัน' แถลงการณ์บางส่วนระบุ 'เราจะยังคงให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของผู้เล่น, โค้ช และสตาฟฟ์ อย่างที่เรามีมาตลอดช่วงการระบาดใหญ่'

นอกจากนี้ยังมีบันทึกช่วยจำเน้นย้ำว่าแต่ละทีมจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐและท้องถิ่น และมีอิสระที่จะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องพนักงานและผู้เล่นของพวกเขา

ส่วนโปรโตคอลเด่นๆที่จะยกเลิกคือจะไม่มีการทดสอบแบบเฝ้าระวังกับผู้เล่นหรือเจ้าหน้าที่ทีมอีกต่อไป โดยไม่คำนึงสถานะการฉีดวัคซีน แต่ทีมต่างๆจะต้องระบุพื้นที่ภายในสโมสรอย่างน้อย 10 แห่งเพื่อรองรับสำหรับผู้ที่มีรายงานอาการติดเชื้อ 

ผู้เล่นและสตาฟฟ์ที่ต้องสวมอุปกรณ์ติดตามอีกต่อไป โดยไม่คำนึงถึงสถานะวัคซีน, ผู้เล่นและสตาฟฟ์ไม่ต้องสวมหน้ากากหรือผ้าคลุมหน้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของรัฐและท้องถิ่น และสโมสรสามารถกำหนดให้ผู้เล่นและสตาฟฟ์สวมหน้ากากได้เช่นกันหากพวกเขาเลือกที่จะทำแบบนั้น