เกมนี้ นีซ ส่ง อามีน กูอีรี่ กับ แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก เล่นเกมรุก ส่วน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไม่มี คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่ติดโทษแบน แนวรุกใช้ ลีโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์ และ อังเคล ดิ มาเรีย

เริ่มเกมมานาทีแรก นีซ ทักทายก่อน แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก จ่ายบอลให้ อามีน กูอิรี่ ยิงด้วยขวาในเขตโทษ แต่ยังไม่ผ่านมือ เกย์ลอร์ นาวาส 

นาทีที่ 9 เปแอสเช มีโอกาสบ้าง เนย์มาร์ สร้างโอกาสให้ อังเคล ดิ มาเรีย ตามเข้าไปหวดด้วยขวา แต่ วอลเตอร์ เบนีเตซ ยังไม่พลาดป้องกันช่วยเจ้าถิ่นเอาไว้

นีซ หาโอกาสได้อีกในนาที 24 เมลวิน บาร์กด์ เติมเกมรุกขึ้นมาเปิดบอลเข้าเขตโทษไปถึง ปาโบล โรซิโอริโอ ได้โหม่ง แต่โด่งข้ามคาน 

เปแอสเช ต่อบอลกันไม่ต่อเนื่องนัก และนาที 40 ก็โดน นีซ คุกคามอีกครั้งจากการยิงของ อามีน กูอิรี่ ที่ยังติดเวฟ นาวาส ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0 

ครึ่งหลังนาที 66 เปแอสช มีลุ้นจากกาโหม่งในเขตโทษของ ธีโล เคห์เรอร์ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ วอลเตอร์ เบนีเตซ 

นาที 82 ลิโอเนล เมสซี่ ดีดบอลเข้าเขตโทษให้ เมาโร อีการ์ดี้ วิ่งสอดไปยิงด้วยขวาเน้นๆ ทว่ามีผู้เล่น นีซ พุ่งบล็อกออกหลังได้หวุดหวิด

นีซ ตอบโต้คืนในอีก 2 นาทีถัดมา มอร์กาน ชไนเดอร์ลิน จ่ายบอลให้ จัสติน ไคลเวิร์ต ลากต่อเข้าเขตโทษก่อนยิงด้วยขวา แต่ก็ตรงตัว เกย์ลอร์ นาวาส ที่รับเข้าซองไม่มีพลาด

เจ้าถิ่นได้เฮสนั่นในนาที 88 เนย์มาร์ โดนตัดบอลได้ นีซ โต้กลับทันที คัลวิน สเตงส์ พาบอลขึ้นทางซ้ายก่อนโยนเข้าเขตโทษไปถึง อองดี้ เดอลอร์ ตัวสำรอง ตั้งเท้าแปเน้นๆ ส่งบอลผ่านมือ นาวาส เข้าไปอย่างเด็ดขาดเป็น 1-0 

จากนั้นจบเกม นีซ เปิดรังเฉือนชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-0 พร้อมแซง มาร์กเซย ขึ้นไปรั้งที่ 2 ชั่วคราว