ริโอ เฟอร์ดินานด์, โจ โคล และ สตีฟ แม็คมานามาน 3 นักวิจารณ์ บีที สปอร์ต ยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า คาริม เบนเซม่า กองหน้า เรอัล มาดริด คือผู้สร้างความแตกต่างแก่เกมชปล.รอบก่อนรองฯ นัดแรก ที่ปราบ เชลซี 3-1 อย่างแท้จริง เพราะแปลงโอกาสไม่กี่ครั้งเป็นแฮตทริก
สังขาร 34 ปีไม่เป็นอุปสรรคแก่หอกเฟร้นช์แมนที่เจนจัดบนสมรภูมิลูกหนังเพราะซีซั่นนี้ซัดรวม 37 ลูกให้ทีมมีลุ้นทั้งแชมป์ ลา ลีกา สเปน รวมถึงอยู่บนเส้นทางล่าเจ้ายุโรปอย่างมั่นคง
ความสุดยอดที่ไม่มีวัยวุฒิมาเป็นตัวขัดขวางต่างทำให้เหล่ากูรูสัญชาติอังกฤษล้วนยกนิ้วโป้งให้กัปตัน ‘ราชันชุดขาว’
“ก็ทำหน้าที่ได้อย่างลุล่วง และหมอนั่นยังสามารถพพังตาข่ายได้” เฟอร์ดินานด์ เริ่มก่อน
https://twitter.com/btsportfootball/status/1511831378366771205
“เขาฉีดกระตุ้นให้ทีมยังเป็นจ่าฝูงลีกา มาดริด ผงาดโดยที่ เบนเซม่า คือกระดูกสันหลัง”
“ตอน คริสเตียโน่โรนัลโด้ ยังอยู่กับทีมทาง คาริม ก็อะลุ้มอล่วยเป็นเบื้องหลังให้เพราะเจ้าตัวรู้ว่าสิ่งใดมีความหมายต่อทีม แต่ปัจจุบันได้ออกมาจากร่มเงาดังกล่าวแล้ว”
“เจ้าตัวอายุ 34 ปีแต่ก็ยังเป็นกองหน้าเบอร์#9 ที่ดีสุดของโลก เป็นอีกระดับ ทั้งทำประตู, แอสซิสต์, เชื่อมเกม, ชะลอเกม”
ต่อที่ โคล ฐานะศิษย์เก่า เชลซี ยังกัดฟันชมแข้งเฟร้นช์แมน “เบนเซม่า ทำผลงานดีกว่าเมื่อดูจากวัยวุฒิขนาดนี้”
ปิดท้ายกับ ‘แม็คก้า’ ศิษย์เก่า ‘ราชันชุดขาว’ ระบุว่ากึ๋นบอลสร้างความแตกต่างให้ ‘เบนซ์’ ดีกว่ากองหน้าวัย 34 ปีคนอื่นๆในวงการ
“เขาทราบว่าไม่ต้องพุ่งทะยานเข้ากรอบตลอดเวลา หมอนั่นมาถึงช้าด้วยซ้ำแต่ประสบการณ์ที่มีได้สอนทุกอย่าง”
“ทุกครั้งที่ก้าวลงสนามดูแล้วยังไงเขาก็ยิงได้ การเคลื่อนที่ฉลาดมาก”
เบนเซม่า คือผู้เล่นคนล่าสุดที่ยิงสะสมในชปล.ทะลุ 80 ลูก (ปัจจุบัน 82) รองจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (85), ลิโอเนล เมสซี่ (125)และ คริสเตียโน่ โรัลโด้ (140)
