ลิเวอร์พูล ส่ง หลุยส์ ดิอาส ลงเล่นแนวรุกร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด มาในระบบ 3 เซนเตอร์กับการส่ง ฟิล โจนส์ ลงช่วยเกมรับ ส่วนแนวรุกไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เพิ่งสูญเสียลูกชายตอนคลอด 

เริ่มเกมมาเพียง 5 นาที ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากการโจมตีเกมรับผีแดงฝั่งซ้าย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดขึ้นมาก่อนถวายพานให้ หลุยส์ ดิอาซ แปง่ายๆ เข้าไป

นาทีที่ 10 สถานการณ์ของผีแดงมีปัญหาต่อเนื่องเมื่อ ปอล ป็อกบา บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ราล์ฟ รังนิก จึงต้องส่ง เจสซี่ ลินการ์ด ลงเล่นแทน

หงส์แดง มีโอกาสต่อเนื่องในนาที 16 ติอาโก้ อัลกันตาร่า จ่ายบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ ลากไปซัดหน้าเขตโทษ บอลแฉลบผู้เล่นทีมเยือนนิดเดียว

เจ้าถิ่นนำ 2-0 จนได้ในนาที 22 จากการทำชิ่งกันอย่างสุดยอดก่อนเป็น มาเน่ ตวัดบอลให้ ซาลาห์ สอดไปจับหนึ่งจังหวะก่อนยิงด้วยซ้ายผ่านตัว ดาบิด เด เคอา เข้าไป

หงส์แดง ส่งบอลตุงตาข่ายได้อีกในนาที 35 ฟาบินโญ่ เก็บบอลได้หน้าเขตโทษก่อนตวัดให้ ดิอาซ ยิงง่ายๆ เข้าไป ทว่า ดิอาซ ถูกจับล้ำหน้า จึงไม่ได้ประตูเพิ่ม จากนั้นจบครึ่งแรก หงส์แดง นำสบายๆ 2-0

ครึ่งหลัง รูปเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดีขึ้นชัดเจน เป็นฝ่ายบอลทำเกมรุกได้ดีกว่าครึ่งแรกหลังจากถอด ฟิล โจนส์ ออกแล้วส่งตัวรุกอย่าง เจดอน ซานโช่ ลงมาเล่น

นาที 64 แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสตีไข่แตกเมื่อ ซานโช่ แหวกทางซ้ายก่อนจ่ายทะลุช่องให้ แรชฟอร์ด สอดไปยิงติดเซฟ อาลีสซง เบ็คเกอร์ จังหวะแรก เจสซี่ ลินการ์ด ได้ซ้ำก็ติดเซฟอีก จากนั้นผู้ตัดสินเป่าล้ำหน้า แต่จากภาพช้าไม่ได้ล้ำแต่อย่างใด

ทว่ากลับเป็นหงส์แดงที่หนีเป็น 3-0 ในอีก 4 นาทีถัดมาจากการลุ้นยิงครั้งแรกของครึ่งหลัง หลุยส์ ดิอาซ ได้บอลฝั่งซ้ายก่อนจ่ายเข้าตรงกลางให้ มาเน่ ตวัดยิงด้วยซ้ายส่งบอลเบียดเสาเข้าไปอย่างแม่นยำ 

ก่อนจบเกม 5 นาที ลิเวอร์พูล มาได้ประตูที่สี่จากความผิดพลาดในแนวรับผีแดงที่โดนแย่งบอลก่อนเป็น ดิโอโก้ โชต้า ตัวสำรองไหลเข้าเขตโทษให้ ซาลาห์ ยิงแฉลบ วาน-บิสซาก้า ที่พุ่งบล็อก ทำให้บอลลอยข้ามหัว เด เคอา เข้าประตูไป

จากนั้นจบเกม ลิเวอร์พูล ยำใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด 4-0 พร้อมแซงหน้า แมนฯ ซิตี้ เป็นจ่าฝูงชั่วคราวก่อนที่เรือใบจะลงสนามในวันพุธ