เริ่มเกมมาเพียงนาทีเศษ แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ริยาด มาห์เรซ ลากลุยทางฝั่งขวาก่อนเปิดเข้าเขตโทษให้ เควิน เดอ บรอยน์ สอดมาโขกเข้าไปอย่างสวยงาม 

จากนั้นนาที 11 เจ้าถิ่นขยับนำเป็น 2-0 เดอ บรอยน์ เปิดบอลจากซ้ายเข้าเขตโทษ กาเบรียล เชซุส เบียดกับ ดาวิด อลาบา ก่อนพลิกยิงด้วยขวาส่งบอลหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์  เข้าไป 

แมนฯ ซิตี้ น่าจะได้เพิ่มลูกสามในนาที 26 แบร์นาร์โด้ ซิลวา ไหลบอลให้ ริยาด มาห์เรซ ที่มีเพื่อนรออยู่เสาไกล แต่เลือกยิงเองด้วยขวา และบอลหลุดกรอบอย่างเสียของ 

ทีมเยือนตามตีไข่แตกได้ในนาที 35 แฟร์กล็องด์ เมนดี้ เปิดบอลจากซ้ายไปถึง คาริม เบนเซม่า ตวัดด้วยซ้ายส่งบอลเบียดเสาเข้าไปอย่างสุดยอด สกอร์กลับมาเป็น 2-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

เริ่มครึ่งหลังได้นาทีแรก แมนฯ ซิตี้ น่าจะได้ประตูนำสุดๆ เมื่อ เอแดร์ มิลิเตา เข้าบอลไม่ดี มาห์เรซ ได้หลุดเดี่ยวมีเวลาเหลือเฟือได้เลือกมุมยิง แต่ซัดบอลไปชนเสา ฟิล โฟเด้น ได้ซ้ำจ่อๆ แต่ก็ไปติด ดาเนียล การ์บาฆาล ที่วิ่งมาบล็อกได้ทันบนเส้น เรอัล มาดริด รอดหวุดหวิดจังหวะนี้

แมนฯ ซิตี้ เอาประตูนำ 3-1 จนได้ในนาที 53 แฟร์นันดินโญ่ แย่งบอลได้ทางฝั่งขวาก่อนเป็นคนเปิดเข้าเขตโทษให้ ฟิล โฟเด้น โขกจ่อๆ ไม่เหลือซาก

แต่ เรอัล มาดริด ทวงคืนอีกลูกได้เร็วใน 2 นาทีถัดมา วินิซิอุส ข้ามหลอก แฟร์นันดินโญ่ แล้วพลิกตัวสับสุดแรงเกิดจากกลางสนามจนเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนยิงบอลผ่าน เอแดร์ซอน เข้าไปอย่างสุดยอด สกอร์เป็น 3-2

นาที 74 แมนฯ ซิตี้ หนีเป็น 4-2 เมื่อ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ โดนทำฟาวล์หน้าเขตโทษ ผู้ตัดสินกำลังจะเป่าให้ฟรีคิกแต่ปล่อยให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เล่นต่อทันทีและแข้งโปรตุกีสก็เลี้ยงเข้าซ้ายก่อนซัดเต็มข้อส่งบอลเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม

เรือใบเกือบได้ลูกห้าในอีก 2 นาทีถัดมา มาห์เรซ ได้บอลทางขวาก่อนโชว์สเต็ปเลี้ยงหนีผู้เล่น เรอัล มาดริด ก่อนหลุดไปซัดมุมแคบด้วยขวา บอลผ่าน กูร์กตัวส์ และผ่านเสาไกลออกหลังไปนิดเดียว

เรอัล มาดริด ไม่ถอดใจ นาที 81 มาได้จุดโทษในจังหวะที่ เอมเมอริก ลาปอร์กต์ ขึ้นโหม่งเคลียร์บอลแล้วโดนมือตัวเอง ผู้ตัดสินเป่าทันที คาริม เบนเซม่า รับหน้าที่ยิงก่อนชิพบอลเข้ากลางประตูอย่างเหนือชั้น เอเอแดร์ซอน ล้มตัวไปแล้วจึงเซฟไม่ทัน

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้น จบเกม แมนฯ ซิตี้ เอาชนะ เรอัล มาดริด หวุดหวิด 4-3 นัดสองจะเล่นที่บ้านมาดริดในสัปดาห์หน้า