บริษัท ไทยลีก จำกัด ร่วมกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดงานแถลงข่าวออนไลน์ Revo Thai League Meet the press ก่อนการแข่งขัน รีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 นัดที่ 29 คู่ระหว่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ สุพรรณบุรี เอฟซี

สำหรับการแถลงข่าวในครั้งนี้ ได้ทาง ซาริฟ สายนุ้ย ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ สถาพร วาจาขำ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน สุพรรณบุรี เอฟซี ได้มาเข้าร่วมพูดคุยความเกี่ยวกับความพร้อมก่อนเกมนัดนี้

ส่วนทาง ซาริฟ สายนุ้ย ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้กล่าวว่า

“ผลการแข่งขันมันไม่เป็นตามที่คาดหวัง ต้องบอกว่าเป็นเกมที่ยากเพราะเป็นเกมเยือน ขอชื่นชมฝั่งทีมเมืองทอง ซึ่งบรรยากาศในการแข่งขันแฟนบอลของเมืองทองและแฟนบอลทุกๆคนสร้างบรรยากาศได้ค่อนข้างดีถือว่าเป็นอีกเกมหนึ่งที่สนุกเป็นจังหวะของฟุตบอลมากกว่าที่หลายๆจังหวะมันไม่เป็นใจ ทางฝั่งเมืองทองเมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น เขาก็สามารถที่จะลงโทษและแย่งชิงความได้เปรียบเอาไว้ได้เราก็ต้องโฟกัสกับเกมที่เหลือก็ถือว่ายังมีโอกาสที่จะสามารถรั้งอันดับที่สามไว้ได้”

“โค้ชอยากให้โฟกัสกับเกมที่เหลือให้ได้มากที่สุด เราไม่ได้โฟกัสผู้ต่อสู้มากเท่าไหร่ เราโฟกัสกับทีมเรามากกว่าพยายามให้ทุกคนมีสมาธิและมุ่งมั่นไปกับเกมที่เหลือ เป็นข้อได้เปรียบที่ได้เล่นในบ้านทั้งสองเกมที่เหลือ แม้ว่าผู้ต่อสู้แข็งแกร่งและมองว่าไม่ได้ง่าย เกมถัดมาอย่างสุพรรณ ก็เป็นสถานการณ์ที่เราต้องทำให้เต็มที่ ทำให้รู้ว่าเราต้องเจอความยากอะไรบ้าง”

“สองเกมล่าสุดเราเสียไป 5 ประตู ก็ต้องมาทำการบ้านจัดระบบระเบียบกันใหม่ในการเล่นเกมรับ พยายามทำให้รัดกุมมากขึ้นแล้วก็ไม่ประมาทหลักๆก็ดูความพร้อมว่าเกมนี้ นักเตะคนไหนที่พร้อมเล่นบ้าง ในตอนนี้ทุกคนก็พร้อม 100 % ไม่มีโทษแบน อาการบาดเจ็บอาจจะมีแค่ มานูเอล ทอม เบียร์ คนเดียวที่ยังบาดเจ็บอยู่ก็มีการอัพเดทอาการอยู่เรื่อยๆ เราคงเลือกผู้เล่นที่ดีและพร้อมที่สุดสำหรับลงเล่นในเกมนี้ ทำให้รัดกุมมากขึ้นปรับปรุงเพื่อไม่ให้เสียประตูง่ายเหมือนกับนัดที่ผ่านๆมา”

“การที่เราต้องรักษาอันดับสามไว้ตามที่สโมสรได้ตั้งเป้าหมายไว้ ตั้งแต่ต้นฤดูกาล ก็ต้องเลือกนักเตะที่พร้อมที่สุดแต่ในตอนนี้ให้นักเตะทำหน้าที่ให้สโมสรก่อน”

“แต้มที่เราทำได้ดีที่สุดในตอนนี้คือแค่อับดับ 3 นะครับ พยายามโฟกัสและก็ทำให้เต็มที่ เพื่อที่จะรักษาอันดับไว้ให้ได้ เพราะมันเป็นโค้วต้าที่จะได้รับคัดเลือกไป ACL ด้วย”

“ที่พอมีการเปลี่ยนแปลงโค้ชและวิธีการเล่นที่เปลี่ยนไปนักเตะก็ต้องปรับตัวกันอยู่พอสมควรทำให้เกิดช่องว่างเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ไม่ดีพอ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยังปรับตัวกันอยู่ทุกคนก็พยายามกันเต็มที่ ต้องไปแก้ไขรายละเอียดเกมรับให้ดียิ่งขึ้น”

“ยังไม่ได้ไปถึงจุดนั้นอยากจะโฟกัสกับเกมที่เหลือก่อนถ้าจบฤดูกาลแล้ว ทางทีมทางสตาฟโค้ชทั้งหมดก็คงได้มีการพูดคุยกันอาจจะมีแผนเรื่องตัวผู้เล่นว่าจะเสริมเข้าหรือมีใครที่จะต้องปรับเปลี่ยน ต้องมาวางแผนหลังจบฤดูกาลนี้ไปก่อน ตอนนี้เราอยากโฟกัสกับเกมที่เหลือให้ได้มากที่สุด”

“ฤดูกาลนี้เราเจออะไรค่อนข้างเยอะ ความไม่ลงตัวของผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บรวมถึงสถานการณ์โควิคด้วย นักเตะที่เข้ามาใหม่ในช่วงต้นฤดูกาลก็เราพยายามทำความเข้าใจกับสไตล์การเล่น ซึ่งทางพี่แบนเองก็ทำงานกันค่อนข้างหนักในช่วงนั้น กำลังไปด้วยดีในช่วงเลกแรกแต่พอเข้าเลกสอง โปรแกรมทีมชาติกลับมา ทำให้ทีมของเราต้องมีการปรับเปลี่ยนทำให้นักเตะมีความเหนื่อยล้า ทำให้เราประเมินได้ค่อนข้างลำบาก ทำให้ไม่สามารถที่จะวางแผนได้เลย ถ้าพูดเป็นคะแนนแฟนบอลอาจจะมีผิดหวัง แต่ในส่วนตัวผมการทำงานของทุกคนในสโมสรความพยายามความตั้งใจผมให้ สิบเต็มสิบครับ”

“แม้ว่าเราจะไม่ได้ถ้วย การที่เราได้มีโอกาสไปเล่นใน ACL ก็ถือว่าอยู่ในเป้าที่ได้ตั้งไว้ แม้ว่าจะไม่ได้ถ้วยเลยแต่การที่ได้เข้าไปเล่นใน ACL ถือว่าเปิดโอกาสมีทัวร์นาเมนให้กับ นักฟุตบอลให้สโมสรได้โชว์ในเอเชียถือว่าเป็นโอกาสที่ดี”

ส่วนทาง สถาพร วาจาขำ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของทีมสุพรรณบุรี เอฟซี กล่าวว่า

“เกมก่อนที่จะเล่นกับสมุทรปราการครั้งที่แล้วเราก็ต้องลดข้อผิดพลาด เพราะเกมที่แล้วยังมีข้อผิดพลาดเดิมๆอยู่ กับการเสียประตูค่อนข้างที่จะง่าย แต่เราก็ไม่ได้โทษนักเตะ เพราะบางทีเกมรับสามารถทำให้เสียประตูได้อยู่แล้ว เกมที่เหลือก็อยากโฟกัสและทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”

“เหลืออีกสองเกมที่เหลือก็ต้องบอกว่า ทีมของเราเจอหนักที่สุด ทั้ง สโมสรทรูแบงค็อก และ สโมสรบุรีรัมย์ ซึ่งทางสโมสร ทรูแบงค็อก ต้องการแต้มอยู่แล้ว ทางฝั่งบุรีรัมย์ก็ไม่ต้องการแพ้เช่นกัน ซึ่งเราก็คงทำอะไรมากไม่ได้นอกจากจะทำให้เต็มที่ ผลการแข่งขันจะเป็นยังไงค่อยว่ากันหลังเกมครับ”

“มีนิดหน่อยครับ คือคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ผู้เล่นที่ติดโทษแบน หน้าจะไม่มีต้องรออัพเดทอีกครั้งหนึ่งส่วนผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บจากแมตช์ที่แล้วหรือคนที่ยังไม่พร้อมคิดว่าหน้าจะไม่มี ไปด้วยความพร้อมครับแมตช์นี้”

“เราเสียหายไปตั้งแต่เกมที่เราแพ้เทโร ยังไงก็แล้วแต่เราต้องเก็บ 6 แต้มให้ได้ เกมที่เราต้องเล่นกับ แบงค็อกและบุรีรัมย์ เราต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดโอกาสในฤดูกาลหน้าที่เราจะได้เล่นในไทยลีกมันก็น้อยลง ถ้าเราพยายามกันเต็มที่แล้วผลมันจะออกมายังไงก็รับได้ครับ”

“ยังไงก็เอาตัวรอดในฤดูกาลนี้ได้ ในสองเกมที่เหลือมันไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะทำให้เต็มที่สำหรับสองเกมที่เหลือครับ”

“ภายในอาทิตย์นี้ทางผู้ใหญ่น่าจะมีการเข้ามาพูดคุยกันครับ เรื่องค่าอัดฉีดต่างๆสำหรับนักเตะ ต้องรอการอัพเดทจากทางผู้ใหญ่อีกทีครับ”

“เป็นคำถามที่คนถามมาตลอดในช่วงระยะ 2,3 ปีนี้ จะถามว่าอะไรเป็นปัจจัยคือเราก็ตอบไม่ได้ เราก็ทำหน้าที่ของเราเต็มที่ในเรื่องของการฝึกซ้อมการทำงาน สตาฟทุกคนเขาก็ทำหน้าที่อย่างหนักเราก็คงตอบไม่ได้ ว่าเราซ้อมดีหรือไม่ดีกับผลการแข่งขันมันก็คนละเรื่องกัน อย่างบางเกมเราไม่คิดว่าเราจะได้กลับได้ผลการแข่งขัน เราพยายามปรับแก้ไขเรื่องวิธีการเล่นในแต่ละเกมให้ดีที่สุดและลดข้อผิดพลาดให้น้อยลง”

“ย้ำอีกครั้งในสถานะที่ผมเป็นสตาฟโค้ชคนหนึ่ง ทีมเราก็มีศักยภาพพอที่จะหนีตกชั้นได้ ก็จะทำอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสองเกมที่เหลือ ในเกมหน้าถ้าเราเก็บ 3 แต้ม ได้ ความหวังในการเล่นกับบุรีรัมย์ในเกมสุดท้ายมันจะมีความหมายขึ้นมาทันที เกมหน้าถ้าเราไม่สามารถเก็บ 3 แต้มได้ มันก็คงเป็นบรรยากาศที่ไม่ดีเท่าไหร่สำหรับการเล่นในบ้านนัดสุดท้าย”