บียาร์เรอัล ไม่มี อาร์เนาต์ ดานจูม่า ที่บาดเจ็บ แต่ว่าได้ เคราร์ด โมเรโน่ ฟิตกลับมาช่วยเกมรุก ส่วน ลิเวอร์พูล ที่ชนะมา 2-0 ในนัดแรก เรียก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คืนตัวจริงในแนวรุกร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ และ ดิโอโก้ โชต้า

เริ่มเกมมาเพียง 3 นาทีแรก แฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้เฮลั่นกับประตูนำ 1-0 เมื่อ เปร์วีส เอสตูปินญาน เปิดบอลจากซ้ายเข้าเขตโทษ เอเตียนน์ กาปู ตบกลับคืนมาให้ บูลาย เดีย แปจ่อๆ ไม่เหลือซาก

นาที 12 บียาร์เรอัล มีลุ้นอีกเมื่อแนวรับ ลิเวอร์พูล เคลียร์บอลไม่ขาด ดาเนียล ปาเรโฆ จึงได้ซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ แต่ว่าบอลไม่ตรงกรอบ

ผ่านครึ่งชั่วโมงแรก เกมของ ลิเวอร์พูล ยังไม่สามารถกดดันแนวรับเจ้าถิ่นได้และแทบไม่มีโอกาสลุ้นยิงประตู

ท้ายครึ่งแรกนาที 37 บียาร์เรอัล เกือบได้จุดโทษเมื่อ โล เซลโซ่ หลุดเข้าเขตโทษก่อนเกี่ยวบอลได้ในจังหวะที่ อาลีสซง ออกมาคว้าบอลพอดี แต่ผู้ตัดสินมองว่าไม่ฟาวล์ท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่นเจ้าถิ่น 

ไม่ได้จุดโทษ แต่ บียาร์เรอัล เอาประตูนำ 2-0 จนได้ในนาที 41 เอเตียนน์ กาปู รับบอลยาวได้ทางฝั่งขวาก่อนโยนไปหน้าประตูให้ ฟร็องซิส โกเกอแล็ง ขึ้นโหม่งตัดหน้า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ก่อนขวิดบอลตุงตาข่ายสำเร็จ อาลีสซง เบ็คเกอร์ ได้เพียงยืนมองอย่างเดียว จากนั้นจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้

ครึ่งหลัง เจอร์เก้น คล็อปป์ อยู่เฉยไม่ได้ต้องส่ง หลุยส์ ดิอาซ ลงแทน ดิโอโก้ โชต้า ที่เล่นไม่ออกในครึ่งแรก

นาที 55 ลิเวอร์พูล เกือบตีไข่แตกได้จากฟรีคิกที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เขี่ยให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ กดด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลไปแฉลบ ฟร็องซิส โกเกอแล็ง ก่อนลอยข้ามหัว เคโรนีโม่ รูยี่ ไปชนคานอย่างจัง หงส์แดง จึงยังไม่ได้ประตูทวงคืน

อีกนาทีเศษถัดมา หงส์แดงมีโอกาสต่อเนื่อง ซาดิโอ มาเน่ ได้บอลในเขตโทษฝั่งขวาก่อนหาจังหวะเปิดไปให้ หลุยส์ ดิอาซ กระโดดเอี้ยวตัววอลเลย์ แต่โดนไม่ดีทำให้บอลโด่งหลุดเป้าหมาย

ลิเวอร์พูล เอาประตูไล่มาเป็น 2-1 จนได้ในนาที 62 เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จิ้มบอลเข้าเขตโทษให้ ฟาบินโญ่ ที่ตัดสินใจยิงเองสุดแรง บอลทะลุลอดขา เคโรนีโม่ รูยี่ เข้าประตูไปและทำให้ประตูรวมตอนนี้ หงส์แดง นำ 3-2 

โมเมนตัมเปลี่ยนเต็มรูปแบบเมื่ออีก 5 นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ  เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดบอลจากฝั่งขวาไปให้ หลุยส์ ดิอาซ สอดมาโขกเน้นๆ ส่งบอลลงพื้้นลอดขา รูยี่ เข้าประตูไปได้อีก

ลิเวอร์พูล แซงนำ 3-2 ได้สำเร็จในนาที 74 นาบี เกอิต้า กระแทกบอลขึ้นหน้าให้ ซาดิโอ มาเน่ สปีดถึงบอลก่อน เคโรนีโม่ รูยี่ ที่ออกมาตัดบอลหน้าเขตโทษแล้ววืด ก่อนเกี่ยวหนี ฮวน ฟอยธ์ อีกจังหวะแล้วยิงเข้าประตูโล่งๆ ไม่มีพลาด

ช่วงเวลาที่เหลือ บียาร์เรอัล ไม่สามารถทำอะไรได้แถมนาที 86 ยังมาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ เอเตียนน์ กาปู ทำฟาวล์ เคอร์ติส โจนส์ จนได้เหลืองสองกลายเป็นใบแดงไล่ออกไป จากนั้นจบเกม ลิเวอร์พูล แซงชนะ 3-2 รวมผลสองนัดเป็นฝ่ายเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยประตูรวม 5-2 โดยจะรอพบผู้ชนะระหว่าง เรอัล มาดริด กับ แมนฯ ซิตี้ ในวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคมนี้ที่สนามสต๊าด เดอ ฟร้องซ์ ในฝรั่งเศส