เจ้าถิ่นโครเอเชียมี ลูก้า โมดริช กับ มาเตโอ โควาซิช นำทัพแดนกลาง ส่วนฝรั่งเศสบาดเจ็บจากนัดล่าสุดหลายคนต้องปรับแนวรุกส่ง วิสซาม เบน เยแดร์ ลงเล่นร่วมกับ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู 

เริ่มเกมมานาที 18 โครเอเชีย มีโอกาสก่อนเมื่อ โควาซิช ไหลบอลให้ อันเต้ บูดิเมียร์ ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษฝั่งซ้าย แต่ว่าติดเซฟของ ไมค์ เมนญ็อง นายทวารตราไก่ 

จากนั้นทั้งสองทีมหาโอกาสกันไม่ได้มากนัก โดยฝรั่งเศส มามีลุ้นในนาที 39 จากจังหวะที่ มุสซ่า ดิยาบี้ หลุดเข้าไปยิงมุมแคบ แต่ว่าติดเซฟ โดมินิก ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูของโครเอเชีย 

อีกนาทีถัดมา ตราไก่ หาโอกาสได้จากการไกลของ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ ที่เข้ากรอบ แต่ยังไม่ผ่านมือ ลิวาโควิช ทำให้จบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0 

ครึ่งหลังนาที 52 ฝรั่งเศส ได้ประตูออกนำ 1-0 ในจังหวะต่อบอลสุดสวยทางฝั่งซ้ายของ อาเดรียง ราบิโอต์ ที่ฝากบอลกับ วิสซาม เบน เยแดร์ ก่อนวิ่งทะลุเข้าเขตโทษไปรับบอลแล้วยิงด้วยซ้ายผ่านมือ โดมินิก ลิวาโควิช เข้าไป 

โครเอเชีย น่าจะได้ประตูตีเสมอสุดๆ ในนาที 70 เมื่อ ลูก้า โมดริช ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนล็อกเข้าซ้ายแล้วยิงไกล บอลโค้งจะเสียบมุมอยู่แล้วแต่ ไมค์ เมนญ็อง ซูเปอร์เซฟปัดเอาไว้ได้หวุดหวิด

ท้ายเกมนาที 83โครเอเชีย มาได้จุดโทษเมื่อ อันเดรย์ ครามาริช ตัวสำรองโดน โชนาตาน กรอสส์ แข้งฝรั่งเศสทำฟาวล์ ก่อนเป็น ครามาริช รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดเปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1

ฝรั่งเศส เกือบนำอีกรอบในนาที 88 เมื่อ อองตวน กรีซมันน์ ตัวสำรองได้หลุดเดี่ยว และแตะบอลหนี โดมินิก ลิวาโควิช ที่ออกมาหน้าเขตโทษแล้ววืด ทว่าจังหวะยิงหักข้อเท้ามากไปหน่อย บอลจึงเลยหน้าประตูออกไป

จากนั้นจบเกมไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้อีกทำให้เสมอกันไป 1-1 แบ่งทีมละแต้ม และทำให้ยังไม่ชนะทั้งคู่ในการลงเล่น 2 นัดแรกของ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก