เจ้าถิ่นทัพกังหัน ปรับทัพหลายตำแหน่ง แนวรุกใช้ โนอาห์ ลัง ล่าตาข่ายกับ วินเซนต์ ยานเซนต์ และได้ มัทไธจ์ส เดอ ลิกท์ หายเจ็บกลับมาคุมแนวรับ ส่วน เวลส์ ให้ แกเร็ธ เบล เป็นสำรอง

เนเธอร์แลนด์ ได้ลุ้นก่อนในนาทีที่ 10 ฮันส์ ฮาเตบัวร์ เปิดบอลให้ วินเซนต์ ยานเซนต์ ได้โหม่ง แต่ไม่เข้ากรอบ 

อีก 7 นาทีถัดมา เนเธอร์แลนด์ นำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ ยานส์เซ่น ทางขวาแตะบอลให้ โนอาห์ ลัง พลิกเข้าไปถึงหัวกะโหลกก่อนซัดด้วยขวาบอลพุ่งตุงตาข่ายไม่เหลือ 

สกอร์ขยับเพิ่มเป็น 2-0 ในนาที 23 โคดี้ กั๊คโป ได้บอลกลางสนามแล้วลากฝ่ามาถึงหน้าเขตโทษก่อนจะซัดเองไปติดบล็อค แต่ก็ตามซ้ำเข้าไปไม่พลาด

ทีมเยือนเวลส์ไม่ถอดใจ สามารถไล่ทวงเม็ดแรกคืนได้อีก 3 นาทีถัดมาจากจังหวะที่ตัดบอลได้กลางสนาม แฮร์รี่ วิลสัน แทงให้ เบรนแนน จอห์นสัน หลุดเข้าไปตรงกลางก่อนจะซัดด้วยขวาผ่านตัว ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ตุงตาข่าย จากนั้นจบครึ่งแรกที่สกอร์ 2-1 

เริ่มครึ่งหลังได้ 4 นาที ทัพกังหันมีลุ้นเมื่อ วินเซนต์ ยานส์เซ่น แทงบอลหน้ากรอบให้ กั๊คโป สอดหลุดเข้าไปในกรอบฝั่งขวาก่อนจะได้ซัดหน้าเสาแรกบอลสุดท้ายไปติดเซฟ เฮนเนสซีย์ 

นาที 69 เจ้าถิ่นเกือบได้เฮอีก วินเซนต์  ยานส์เซ่น ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนจะวางเท้าปั่นด้วยซ้ายเน้นๆ บอลเกือบโค้งเข้าประตูแต่ เวย์น เฮนเนสซีย์ ปัดแล้วคว้าเอาไว้ได้หวุดหวิด

ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เวลส์ ส่ง แกเร็ธ เบล ลงสนาม และตามตีเสมอ 2-2 ได้ในทดเจ็บจากจุดโทษที่ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ยืนยันว่า ไทเรลล์ มาลาเซีย ไปทำฟาวล์ คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ ก่อนเป็น เบล รับหน้าที่สังหารไม่พลาด

เกมทำท่าว่าจะแบ่งแต้มกันไป แต่แล้วช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 เจ้าถิ่นก็มาได้ประตูชัยในจังหวะที่ทีมเยือนสกัดบอลไม่ดีเข้าทาง เดอปาย วิ่งไปล้มตัวยิงด้วยขวาตามน้ำเข้าไปไม่เหลือ 

ทำให้จบเกม เนเธอร์แลนด์ เบียดชนะ เวลส์ ไปได้สนุก 3-2 เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนน ยึดตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่มเอาไว้ได้