ทาง เลเวอร์คูเซ่น อุ่นเครื่องเอาชนะ อูดิเนเซ่ มาได้ 2-1 ในเกมล่าสุดนัดนี้ใช้  มุสซ่า ดิยาบี้, ซาร์ดาร์ อัซมูน และ อดัม ฮโลเซ็ค เป็นสามแนวรุกทำเกมอยู่หลัง พาทริค ชิค ที่ยืนหัวหอกตัวเป้า

เปิดเกมมาแค่ 2 นาทีแรก เป็น เอลเวอร์สแบร์ก ที่ได้ประตูออกนำเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ มานูเอล ไฟล ลากบอลขึ้นมาก่อนจะจ่ายต่อไปให้ ยานนิค โรเชลท์ ได้กดด้วยซ้ายบอลเข้าประตูไป 

แต่หลังจากนั้นแค่ 3 นาที เลเวอร์คูเซ่น ก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ ซาร์ดาร์ อัซมูน ได้บอลก่อนจะจ่ายต่อไปให้ อดัม ฮโลเซ็ค ได้ตะบันด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งเสียบมุมประตูเข้าไป 

แต่ในนาทีที่ 17 ฝั่ง เอลเวอร์สแบร์ก ก็มาขึ้นนำเป็น 2-1 ในจังหวะที่ ชาร์ลส์ อารานกีซ ไปทำฟาวล์ ยานนิค โรเชลท์ ในกรอบเขตโทษทำให้ผู้ตัดสินเป่าให้ลูกโทษทันที และเป็น  เควิน คอฟฟี่ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด 

แต่ในนาที 30 เลเวอร์คูเซ่น ก็มาตีเสมอเป็น 2-2 จากจังหวะที่ มุสซ่า ดิยาบี้ ลากบอลขึ้นมาทางขวาก่อนจะจ่ายต่อไปให้ อัซมูน ปาดเข้าในมาให้ ชาร์ลส์ อารานกีซ ที่เติมขึ้นมาวิ่งเข้ามาแปจ่อๆง่ายๆเข้าประตูไป 

ทว่าทาง เอลเวอร์สแบร์ก ก็มาแซงนำเป็น 3-2 ในนาทีที่ 37 จากจังหวะที่ เควิน คอฟฟี่ หลุดขึ้นมาก่อนจะจ่ายบอลไปให้ทาง ลูก้า ชเนลล์บาเชอร์ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายผ่านมือ ลูคัส ฮราเดชกี้ เข้าประตูไป 

ครึ่งหลัง นาที 74 เอลเวอร์สแบร์ก มาหนีเพิ่มเป็น 4-2 จากลูกเตะมุมที่ ธอเร่ ยาค็อบเซ่น เปิดเข้ามาก่อนจะเป็น เควิน คอนราด ที่โฉบมาโขกจ่อๆ ผ่านตัว ลูคัส ฮราเดชกี้ เข้าประตูไป 

  ท้ายเกมนาที 89 เลเวอร์ ไล่มาเป็น 3-4 จากจังหวะที่ ชิค ออกบอลไปให้ มุสซ่า ดิยาบี้ กระชากขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนจะจ่ายหักกลับมาให้ ชิค แปด้วยซ้ายเข้าประตูไป 

แต่สุดท้ายก็ไล่ไม่ทันจบเกม เอลเวอร์สแบร์ก เฉือนเอาชนะ เลเวอร์คูเซ่น ไปด้วยสกอร์ 4-3