ราโย บาเยกาโน่ วาง เซร์คิโอ กาเมโย่ เป็นหน้าเป้า โดยที่ ราดาเมล ฟัลเกา หอกจอมเก่ามีชื่อสำรอง ส่วน เรอัล มาดริด ขาด คาริม เบนเซม่า ที่บาดเจ็บ และ โทนี่ โครส ที่ติดโทษแบน

ราโย เริ่มต้นดีออกนำ 1-0 ตั้งแต่ 5 นาทีแรกจากการต่อบอลฝั่งซ้ายก่อนเป็น ฟราน การ์เซีย เปิดเข้าเขตโทษ ซานติอาโก้ โกเมซานญ่า ตวัดยิงด้วยซ้ายส่งบอลเสียบมุมอย่างแม่นยำ

นาที 14 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง ออสการ์ เตรโฮ เปิดบอลให้ อัลบาโร่ การ์เซีย ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษฝั่งซ้าย แต่ว่าติดเซฟ  ติโบต์ กูร์กตัวส์ 

ทัพราชันชุดขาวตามตีเสมอได้หลัง มาร์โก อาเซนซีโอ โดน ฟราน การ์เซีย ทำฟาวล์ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ก่อนชี้ขาดว่าเป็นจุดโทษ ลูก้า โมดริช รับหน้าที่ยิงเข้าไปเป็น 1-1 ในนาที 37 

สถานการณ์พลิกเป็น มาดริด แซงนำ 2-1 ในอีก 4 นาทีถัดมา มาร์โก อาเซนซีโอ เปิดเตะมุมฝั่งขวาเข้าหัว เอแดร์ มิลิเตา ที่สลัดตัวประกบได้ก่อนโขกระยะ 6 หลาเข้าไป 

ทว่าเจ้าถิ่นก็ตามตีเสมอได้ก่อนจบครึ่งแรกนาทีเดียว ออสการ์ เตรโฮ โหม่งบอลให้ อีซี่ ปาลาซอน ตวัดต่อไปให้ อัลบาโร่ การ์เซีย จับแล้วกดด้วยซ้ายเน้นๆ ทะลุเซฟของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เข้าไป ทำให้จบครึ่งแรกด้วยการเสมอกัน 

ครึ่งหลังนาที 62 อันโดนี อีราโอล่า กุนซือ ราโย บาเยกาโน่ ได้ใบแดงไล่ออกจากสนามหลังโวยวายเกินเหตุข้างสนาม 

อีก 4 นาทีถัดมา ราโย ได้จุดโทษหลังผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ชี้ขาดว่า ดาเนียล การ์บาฆาล ทำแฮนด์บอล ออสการ์ เตรโฮ รับหน้าที่ยิงติดเซฟ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ที่พุ่งถูกทาง ทว่าผู้ตัดสินให้ยิงใหม่หลังนายทวารมาดริดออกมาจากเส้นประตูก่อน คราวนี้ เตรโฮ เปลี่ยนไปมุมขวามือตัวเอง แม้ กูร์กตัวส์ เดาทางถูกอีกแต่ไม่ทัน บอลพุ่งแรงเข้าประตูทำให้ ราโย นำเป็น 3-2

เกมของ ราโย บาเยกาโน่ คึกต่อเนื่องหลังขึ้นนำอีกรอบ ทำให้ เรอัล มาดริด ต้องปรับเกมถอด ลูก้า โมดริช ออกแล้วเติมกองหน้าอย่าง มาเรียโน่ ดีอาซ ลงแทนในนาที 79

มาดริด พยายามตีเสมอให้ได้และเกือบได้สุดๆ ในนาทีสุดท้ายจากการเข้าชาร์จของ โรดรีโก้ แต่ว่าข้ามคานน่าเสียดาย ทำให้จบเกม ราโย บาเยกาโน่ พลิกชนะ เรอัล มาดริด 3-2 ส่งผลให้ทัพราชันชุดขาวแพ้นัดแรกในลีก และพลาดโอกาสทวงจ่าฝูงคืนจาก บาร์เซโลน่า