กัปตันทีมชาติโมร็อกโกน้ำตาคลอขณะที่ถูกหามลงเปลออกจากสนามขณะที่เหลือเวลาอีก 13 นาทีก่อนที่ชาติจากแอฟริกาเหนือจะเอาชนะแชมป์ยูโร 2016 1-0 เมื่อวันเสาร์

ลูกโหม่งของ ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ ในช่วงท้ายครึ่งแรกสร้างความแตกต่างอย่างน่าทึ่งที่สนามอัล ธูมาม่า เนื่องจากสุดท้ายเป็น โมร็อกโก ที่เหลือ 10 คนในช่วงทดเจ็บกลายเป็นชาติแรกจากแอฟริกาที่ผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกได้

พวกเขาจะรอพบผู้ชนะคู่ระหว่าง อังกฤษ กับ ฝรั่งเศส ในรอบตัดเชือกวันพุธที่จะถึงนี้ หลังจากหยุดเส้นทางฝันของ โปรตุเกส ที่จะไปไกลกว่ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006

แต่พวกเขาก็อาจจะต้องลุยต่อโดยที่ไม่มี ไซอิสส์ ซึ่งเล่นไป 176 เกมทั้งในแชมเปี้ยนชิพ และพรีเมียร์ลีก ตลอดช่วง 6 ฤดูกาลกับ วูล์ฟส์

ดาวเตะวัย 32 ปี กลับมายืนได้ด้วยเท้าของเขาเองในช่วงจบเกม และปลอบใจ เนเวส อดีตเพื่อนร่วมทีม วูล์ฟส์

เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลายคนของ โมร็อกโก ที่ถูกสงสัยเรื่องอาการบาดเจ็บตั้งแต่กอนเกม เช่นเดียวกับคู่หูอย่าง นาเยฟ อาเกิร์ด และ โซฟิยาน อัมราบัต

อาเกิร์ด พลาดเกมกับ โปรตุเกส หลังได้รับบาดเจ็บในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ผ่าน สเปน มาได้ แต่ อัมราบัต ได้เล่นเต็ม 90 นาทีในวันเสาร์

สำหรับ ไซอิสส์ นั้นเป็นผู้เล่นคนสำคัญในแนวรับของ โมร็อกโก ซึ่งเสียไปเพียงประตูเดียวจาก 5 เกมในกาตาร์ ซึ่งมาจากการทำเข้าประตูตัวเองของ อาเกิร์ด ในเกมพบ แคนาดา