เฮดโค้ช วาลิด เรกรากี สร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่แก่ ‘สิงโตแอตลาส’ และฟุตบอลแอฟริกันเมื่อเป็นชาติแรกแห่งกาฬทวีปที่เข้าถึงรอบรองฯ เวิลด์ คัพ โดยบทสรุปแพ้ ฝรั่งเศส 0-1 นัดตัดเชือกจากนั้นก็เสียท่าหวุดหวิดต่อ โครเอเชีย 1-2 เกมชิงที่สาม 

แม้ไม่ถึงขั้นสร้างแชมป์โลกเทพนิยาย แต่มันก็ยิ่งใหญ่พอให้ถูกต้อนรับอย่างวีรบุรุษเมื่อคณะเดินทางถึงกรุงราบัตวานนี้ (20 ธ.ค.) 

https://twitter.com/EnMaroc/status/1605332761148985344

การสดุดีมีตั้งแต่เครื่องบินแลนดิ้งเมื่อรถฉีดน้ำสนามบินตั้งขบวนฉีดซุ้มน้ำแก่นกเหล็กบินลอด 

ต่อด้วยการขนคณะขึ้นบัสสองชั้นเปิดประทุนแห่ไปตามเส้นทางรอบเมืองหลวง ท่ามกลางแฟนบอลหลายแสนชีวิตตลอดสองข้างทาง แล้วจึงเข้าเผ้าฯพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจัดงานเลี้ยงรับรองภายในมหาราชวัง 

ขณะที่พิธีการนอกจากฉายพระบรมฉายาลักษณ์เป็นที่ระลึกในท้องพระโรงร่วมกับ กษัตริย์ โมฮัมเหม็ด ที่ 6 แล้วก็ยังมีมกุฎราชกุมาร มูเลย์ เอล ฮัสสัน และ องค์ชาย มูเลย์ ราชิด 

ทางเฮดโค้ช เรกรากี กับ ฟาอูซี่ เล็คยา ปธ.สหพันธ์ฟุตบอลโมร็อกกันยังได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นที่สอง สดุดีเกียรติ

ส่วนคณะนักเตะทั้ง 26 คนได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นที่สาม