ที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เป็นเกมระหว่าง จิ้งจอกสีน้ำเงิน เปิดบ้านดวลกับ นิวคาสเซิ่ล 

ผ่านไปนาทีเศษมีจุดโทษเมื่อทาง ดาเนียล อามาร์ตีย์ เข้าบอลช้าก่อนจะไปย่ำเอาบริเวณข้อเท้าของ โชเอลินตอน ทำให้ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกเป่าให้ เดอะ แม็กพายส์ ทันที

โดยทาง คริส วูด รับหน้าที่สังหารไม่พลาดส่งบอลเสียบตาข่ายให้ สาลิกาดง ออกนำก่อน 1-0

สกอร์ขยับเป็น 2-0 หลังจากเล่นไปถึงนาทีที่ 7 บรูโน่ กีมาไรช์ ชิ่งคืนให้ มิเกล อัลมีร่อน สอดเข้าเขตโทษก่อนแปบอลเสียบเสาซ้ายมือไม่เหลือซาก

เลสเตอร์ ตามหลัง 0-3 ในนาที 32 คีแรน ทริปเปียร์ เปิดลูกเตะมุมจากทางขวาเข้ากลางให้ โชเอลินตอน โถมขึ้นโขกส่งบอลเสียบตาข่าย

เลสเตอร์ พยายามหาโอกาสบุก ส่วนทีมเยือนก็มีจังหวะบวกสกอร์เพิ่มเช่นกัน แต่ท้ายที่สุดไม่มีประตูเกิดขึ้นในช่วง 45 นาทีหลัง

จบเกม นิวคาสเซิ่ล บุกชนะ เลสเตอร์ 3-0 โดยตอนนี้แซง แมนฯ ซิตี้ ไปรั้งที่ 2 แต่ลงสนามมากกว่า 2 นัด ส่วน จิ้งจอกสีน้ำเงิน มี 17 คะแนนจาก 16 เกม

อีกคู่ที่ลงสนามเวลาเดียวกัน เซาธ์แฮมป์ตัน เปิดรัง เซนต์ แมรี่ส์ ปะทะ ไบรท์ตัน 

คู่นี้เล่นไป 14 นาที เดอะ ซีกัลส์ บุกนำ 1-0 จากจังหวะเปิดของ ซอลลี่ มาร์ช ให้ อดัม ลัลลาน่า ได้โขกแม้ว่า กาวิน บาซูนู ปัดได้แต่บอลยังปลิ้นเข้าประตูไป

นาทีที่ 35 สกอร์ขยับเป็น 2-0 เปร์วิส เอสตูปินญาน เปิดจากทางซ้ายไปเสาไกล โรแม็ง แปร์โรด์ พยายามสกัดแต่โดนกดดันทำให้ส่งบอลเข้าประตูตัวเอง

ทีมเยือนเล่นเหมือนอยู่ในรังตนเอง นาทีที่ 56 ทำสกอร์ 3-0 หนนี้ ซอลลี่ มาร์ช ตัดจากทางขวาเข้าในก่อนลากแล้วกดด้วยซ้ายส่งบอลลอยเสียบตาข่ายแบบหมดจด

แต่ทาง นักบุญ ไล่มา 1-3 ในนาที 73 โดยเป็นจังหวะ ซามูเอล เอโดซี่ ลากไปโดน ปาสกาล กรอส ทำฟาวล์ แม้ว่า เจมส์ วอร์พ-เพราส์ กดติดเซฟ โรเบิร์ต ซานเชซ แต่ก็ตามโขกซ้ำไม่พลาด

จบเกม ไบรท์ตัน ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1 คว้าชัยไปครอง โดยตอนนี้ขึ้นมารั้งที่ 6 มี 24 คะแนน แต่ลงสนามมากกว่า ลิเวอร์พูล (มี 22 คะแนนและลงเล่นหลังจากคู่นี้) 2 เกม ส่วน นักบุญ มี 12 แต้มจาก 16 นัด