‘สิงห์บลูส์’ โคจรมาพบ มาดริด อีกครั้งแต่เที่ยวนี้สลับจากเป็นทีมเหย้าก่อนเลกแรก มาเป็นทีมเหย้าในเลกสอง 

ซึ่งผลเมื่อฤดูกาลก่อนต่างสลับแพ้เกมเหย้า 1-3 รวมผลสองนัดเสมอ 4-4 กระทั่ง มาดริด ได้ประตูสำคัญจาก คาริม เบนเซม่า ช่วงต่อเวลาพิเศษ จึงกรุยทางสู่รอบต่อไปด้วยผล 5-4 และเป็นแชมป์ในบั้นปลาย 

ฐานะคนเพิ่งมารับงานกลางซีซั่นนี้ พ็อตเตอร์ ก็เป็นเกียรติมากๆแล้ว ดังนั้นการดวลแชมป์ยุโรป 14 สมัยบนเวที ชปล.จึงยิ่งกว่าดีใจ 

https://twitter.com/footballdaily/status/1636730365485170689

“ผมเคยบอกว่าเราพยายามจะเอาแชมป์ชปล.! มันก็เหมือนกับอีก 7 สโมสรที่เหลือ”  การเปิดปากผ่าน ‘เชลซี ทีวี’

“คุณสามารถแพ้ได้เสมอในชปล.รอบก่อนรองฯ นั่นคือธรรมชาติของรายการนี้”

“ก็ไว้ถึงเวลาที่เหมาะเราค่อยไปโฟกัสเรื่องการพบ เรอัล มาดริด แต่ปัจจุบันเน้นการพบ เอฟเวอร์ตัน ก่อน”

“ความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อทราบคู่แข่ง แต่ผมขอพูดถึงแค่ เอฟเวอร์ตัน ในเกมวันเสาร์ก่อน เรื่องอื่นยังอีกไกล” 

การดวลกึ๋น คาร์โล อันเชล็อตติ อดีตผจก.ทีม เชลซี ระหว่างปี 2009-11 ก็เป็นอีกประเด็นที่ พ็อตเตอร์ พูดถึง

“ผมไม่รู้จักแกเป็นการส่วนตัว แต่เคยเผชิญหน้ากันตอนแกคุม เอฟเวอร์ตัน” 

“ทราบว่าแกคือสุภาพบุรุษ ไม่มีอะไรพูดถึงมากกว่านั้น นอกจากความนับถืออย่างมากมายที่มีต่อ คาร์โล” 

“ความสำเร็จที่ทำมาก็ช่างน่าทึ่ง ช่วงเวลายาวนานนับจากแชมป์ชปล.หนแรกถึงปัจจุบันกว่า 20 ปี มันช่างน่าอัศจรรย์ ยอดเยี่ยมมาก”

เฮด-ทู-เฮดในการพบ มาดริด ของ เชลซี บนรายการชิงแชมป์สโมสรยุโรป ปรากฏว่า ‘สิงห์บลูส์’ แพ้แค่ 1 จาก 7 เกม คิดเป็น 14% ต่ำสุดสำหรับทีมที่เคยเผชิญหน้าพวกเขา 5 เกมขึ้น