ดี.เจ.รีด คอร์เนอร์แบ็กวัย 26 ปีของ นิวยอร์ค เจ็ตส์ เชื่อมั่นว่า 'แก๊งค์ กรีน' จะก้าวขึ้นไปอีกระดับ หลังการมาถึงของ แอรอน ร็อดเจอร์ส ควอร์เตอร์แบ็กดีกรีเอ็มวีพี 4 สมัย ซึ่งช่วยให้การลุ้นแชมป์ ซูเปอร์ โบวล์ เปิดกว้างขึ้นด้วย ตามรายงานจากอีเอสพีเอ็น

'ผมมั่นใจมาก' รีด กล่าว 'ผมคิดว่าเรามีศักยภาพที่จะเป็นแนวป้องกันดีที่สุดในเอ็นเอฟแอล จริงๆแล้ว ผมคิดว่าเราสามารถเป็นประวัติศาสตร์ได้ ไม่ใช่แค่แนวป้องกันดีที่สุดในลีก แต่ผมคิดว่าเราสามารถเป็นแนวรับประวัติศาสตร์ได้เหมือน แบร์ส ในปี 85-86 และ แอล.โอ.บี. (ลีเจี้ยน ออฟ บูม ของ ซีฮอร์คส์) ในปี 2013 ผมคิดว่าเราสามารถโดดเด่นขนาดนั้นได้ถ้าเรารวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน' 

สองเกมป้องกันที่ รีด กล่าวถึงเป็นกระดูกสันหลังสำหรับการคว้าแชมป์ ซูเปอร์ โบวล์ ของทั้ง แบร์ส และ ซีฮอร์คส์ นอกจากนี้ยังสามารถนับรวมยูนิตเกมป้องกันของ บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ ด้วยเช่นกัน 

รีด ลงเล่นคอร์เนอร์แบ็กฝั่งตรงข้ามกับ ซอซ การ์ดเนอร์ ผู้เล่นรุคกี้เกมป้องกันยอดเยี่ยมเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ ซี.เจ.โมสเลอร์ กลับมาอีกครั้งในฐานะเอาท์ไซด์ไลน์แบ็กเกอร์ดีสุดของลีกเหมือนตอนที่มีชื่อติด ออล-โพร ในปี 2019 รวมถึง ควินเนน วิลเลียมส์ ดีเฟนซีฟแท็คเกิ้ลที่เพิ่งเซ็นสัญญาใหม่รับค่าจ้างแพงสุดอันดับ 2 ของลีกในตำแหน่งดังกล่าว

เกมป้องกันของ เจ็ตส์ อยู่อันดับ 4 ของลีกในซีซั่นที่แล้วทั้งการเสียคะแนนน้อยสุดและการเสียระยะ หากพวกเขาต้องการก้าวกระโดดไปสู่จุดสูงสุด โดยไม่ต้องพูดถึงการทำผลงานดีสุดตลอดกาล การป้องกันเกมวิ่งและการบังคับให้คู่แข่งเสียเทิร์นโอเวอร์จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในฤดูกาลหน้า 

แม้ 'แก๊งค์ กรีน' จะปล่อยให้คู่แข่งขว้างทัชดาวน์น้อยสุดของลีกและเป็นอันดับ 3 ในการเสียระยะเมื่อปี 2022 แต่พวกเขาป้องกันวิ่งอยู่อันดับ 16 ของลีก นอกจากนี้ยังทำให้คู่แข่งเสียเทิร์นโอเวอร์เพียง 16 ครั้ง (อันดับ 29) ซึ่งเป็นสองอย่างที่ยังต้องปรับปรุง