อิตาลี ต้องเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อทำคะแนนเท่ากับ ยูเครน โดยแนวรุกมี โดเมนิโก้ เบราร์ดี้, จาโคโม่ ราสปาโดรี่ และ เฟเดริโก้ เคียซ่า ส่วน มาซิโดเนียเหนือ มี เอลีฟ เอลมาส จาก นาโปลี เป็นตัวความหวัง

เริ่มเกมมานาที 17 ทัพอัซซูรี่ ออกนำก่อน 1-0 จากการเล่นลูกสูตรเตะมุมที่ เฟเดริโก้ ดิมาร์โก ไหลให้ จาโคโม่ ราสปาโดรี่ เปิดจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษไปถึง มัตเตโอ ดาร์เมียน ขึ้นโหม่งเสาไกลตุงตาข่าย 

อิตาลี ได้จุดโทษในนาที 39 หลังจาก นิโคล่า เซราฟิมอฟ ถูกจับแฮนด์บอลในเขตโทษ จอร์จินโญ่ รับหน้าที่ยิง แต่ว่าซัดไปติดเซฟ สโตเล่ ดิมิตริเยฟสกี้ นายทวารของ มาซิโดเนียเหนือ 

เจ้าถิ่นเอาประตูที่สองจนได้ในนาที 41 จากบอลขลุกขลิกในเขตโทษที่กระดอนออกมาหน้าเขตโทษเข้าทาง เฟเดรีโก้ เคียซ่า กดเต็มหลังเท้าขวาส่งบอลเข้าประตูอย่างสะใจ 

ช่วงทดเจ็บ เฟเดรีโก้ เคียซ่า มาบวกเพิ่มประตูที่สองของตัวเองและประตูนำ 3-0 ของอิตาลีจากจังหวะโต้กลับเร็วที่ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ แทงบอลขึ้นหน้าให้ เคียซ่า หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนล็อกหนีตัวประกบแล้วปั่นโค้ง บอลลอยโด่งข้ามหัวนายทวารก่อนฮุกเพียบใต้คานดื้อๆ 

ครึ่งหลังนาที 52 ทีมเยือนตีไข่แตกได้จาก เอซยาน อาลีออสกี้ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษให้ ยานี่ อนาตาซอฟ กระโดดโฉบตัดหน้า จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ก่อนโหม่งจ่อๆ เข้าไปเปลี่ยนสกอร์เป็น 3-1

เล่นไปเล่นมา  มาซิโดเนียเหนือ ไล่มาเป็น 3-2 ในนาที 72 จากคนเดิม ยานี่ อตานาซอฟ ยิงไกลนอกกรอบแฉลบ ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป

ท้ายเกมนาที 81 อิตาลี มาได้ประตูคลายความกดดันเป็น 4-2 จากความยอดเยี่ยมของ จาโคโม่ ราสปาโดรี่ ซัดบอลหนีตัวประกบเสียบเสาไกลเข้าไป

  ช่วงทดเจ็บ สเตฟาน เอลชาราวี่ มาบวกสกอร์ปิดท้ายจากการตวัดยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ หลังจาก เฟเดริโก้ ดิมาร์โก เปิดบอลจากสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายมาให้

ทำให้จบเกม อิตาลี เอาชนะ มาซิโดเนียเหนือ 5-2 ทำให้มี 13 คะแนนเท่ากับ ยูเครน ต้องแย่งตั๋วกันโดยตรงในนัดสุดท้ายวันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายนนี้โดยที่ อิตาลี ขอเพียงเสมอก็พอเพราะนัดแรกเบียดชนะได้ก่อน