เกมแรกเสมอกันมา 1-1 ทำให้ บริสตอล ซิตี้ ได้กลับมาเล่นในบ้าน ขณะที่ เวสต์แฮม ขาดผู้เล่นไปหลายคนทั้งบาดเจ็บ และติดภารกิจทีมชาติ

เริ่มเกมมาเพียง 3 นาที เจ้าถิ่นได้เฮกับประตูขึ้นนำ 1-0 จากความผิดพลาดของ คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส ที่จ่ายคืนหลังไม่ดี ทอมมี่ คอนเวย์ จึงโฉบถึงบอลก่อน ลูคัส ฟาเบียนสกี้ แล้วยิงมุมแคบเข้าไป

นาทีที่ 8 บริสตอล ซิตี้ มีลุ้นอีกครั้ง เทย์เลอร์ การ์ดเนอร์-ฮิคแมน จ่ายบอลให้ รอสส์ แม็คครอรี่ ซัดหน้าเขตโทษด้วยซ้าย บอลเข้ากรอบแต่ว่าติดเซฟ ฟาเบียนสกี้ 

เวสต์แฮม เกือบตีเสมอได้ในนาที 25 จากจังหวะเตะมุมที่จังหวะสุดท้ายเป็น มักซิม กอร์เน่ต์ ได้ยิงจ่อๆ ทว่าซัดหลุดกรอบไปเอง 

ช่วงท้ายครึ่งแรกเป็นโอกาสของเจ้าถิ่น โจ วิลเลี่ยมส์ เปิดบอลให้ อานิส เมห์เมตี้ ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ติดเซฟของ แม็กซ์ โอเลียรี่ จากนั้นจบครึ่งแรกที่สกอร์นี้ 

เริ่มครึ่งหลังได้เพียง 6 นาที สถานการณ์ของ เวสต์แฮม แย่ลงไปอีกเมื่อ ซาอิด เบนห์ราม่า ได้ใบแดงหลังจงใจเอาคืนถีบใส่ โจ วิลเลี่ยมส์ ผู้ตัดสินจึงต้องตะเพิดออกจากสนาม

เวสต์แฮม พยายามฮัดสู้และเกือบตีเสมอได้ในนาที 67 มักซ์เวล กอร์เน่ต์ เปิดบอลให้ โทมัส ซูเช็ค ได้วอลเลย์ในเขตโทษ แต่ว่า แม็กซ์ โอเลียรี่ ยังยอดเยี่ยมป้องกันเอาไว้ได้ 

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก จบเกมเป็น บริสตอล ซิตี้ เบียดชนะ เวสต์แฮม 1-0 ได้ผ่านเข้าสู่รอบ 4 ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง ฟอเรสต์ กับ แบล็คพูล ที่ต้องรีเพลย์เช่นกัน