จิม ฮาร์บอห์ หัวหน้าโค้ชป้ายแดงของ แอลเอ ชาร์จเจอร์ส เปิดเผยว่าการพ่ายแพ้ในเกม ซูเปอร์ โบวล์ เมื่อปี 2012 ฐานะเฮดโค้ช ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตี้นายเนอร์ส เป็นแรงบันดาลใจสำหรับตนเองในการนำทีมสายฟ้าประสบความสำเร็จในอนาคต ตามรายงานจากเอ็นเอฟแอลเน็ตเวิร์ค 

โฟร์ตี้นายเนอร์ส ของ จิม ฮาร์บอห์ กลับมาจากการตามหลัง 22 คะแนนในช่วงควอเตอร์สาม และมีโอกาสทำทัชดาวน์ในเร้ดโซนขณะที่เหลือเวลาไม่ถึง 2 นาที แต่เกมป้องกันของ บัลติมอร์ เรฟเว่นส์ ของพี่ชายเขา จอห์น ฮาร์บอห์ หยุดการเล่นดาวน์ที่ 4 ระยะ 7 หลาเพื่อนำรางวัล ลอมบาร์ดี้ โทรฟี่ ครั้งที่สองกลับสู่แฟรนไชส์สำเร็จ

'คงไม่มีวันไหนที่ผมไม่คิดถึงเกมนั้น และสิ่งที่เราสามารถทำได้ในตอนท้าย (7 หลา) จากการเข้าสู่เอนด์โซน' จิม ฮาร์บอห์ กล่าวถึงเกม ซูเปอร์ โบวล์ เมื่อ 11 ปีก่อน 'คุณออกจากสนามนั้นแล้ว คุณจากไป อาจมีวันอื่นๆ แล้วคุณก็เริ่มคิดว่าอาจจะเป็นวันเดียว แค่อยากจะยิงมันอีกครั้ง แตกอีกครั้ง'

มันเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้โค้ชวัย 60 ปีตัดสินใจหวนคืนเอ็นเอฟแอลอีกครั้งในฐานะหัวหน้าโค้ชคนใหม่ของ ชาร์จเจอร์ส 'เมื่อผมบอกว่ามันสร้างแรงบันดาลใจให้ผมทุกวัน มันจะเป็นทุกวัน' 

ชาร์เจอร์ส คว้าตั๋วเล่นรอบเพลย์ออฟเพียงครั้งเดียว นับตั้งแต่ จัสติน เฮอร์เบิร์ต ถูกเลือกเข้าทีมฐานะดราฟท์อันดับ 6 คลาส 2020 แม้ว่าควอร์เตอร์แบ็กวัย 25 ปี ทำขว้างบอลมากถึง 17,223 หลา ตามหลังเฉพาะ แพทริค มาโฮมส์ ของ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ และ จอช อัลเลน ของ บัฟฟาโล่ บิลล์ส เพียงสองคนก็ตาม และเขายังทำ 114 ทัชดาวน์ สูงสุดอันดับ 4 ในช่วงเวลานั้นด้วย

ทีมสายฟ้ายังมีขุมกำลังทีมรับที่แข็งแกร่งตามหน้าเสื่อด้วยผู้เล่นชั้นนำอย่าง เดอร์วิน เจมส์, คาลิล แม็ค และ โจบี้ โบซ่า แต่พวกเขาล้มเหลวในการเล่นเกมป้องกันโดยเฉพาะสัปดาห์ที่ 15 ที่ปราชัยยับเยินต่อ ลาส เวกัส เร้ดเดอร์ส 21-63 ก่อนจบฤดูกาลฐานะทีมบ๊วยดิวิชั่นเอเอฟซีตะวันตกจากสถิติ 5-12