ไทรีส แม็กซี่ การ์ดวัย 23 ปีหลั่งเลือดจากการถูก แบรนดอน มิลเลอร์ ทำฟาวล์รุนแรงก่อนการทำ 30 คะแนนนำ ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส เปิดบ้านทุบ ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ 109-98 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามรายงานจากอีเอสพีเอ็น

แม็กซี่ ทำ 30 คะแนน, 3 รีบาวน์ด, 4 แอสซิสต์ ขณะที่ เคลลี่ ออเบร จูเนียร์ ทำ 22 แต้ม ส่วน บัดดี้ ฮิลด์ และ พอล รีด ลงมาช่วยทำอีกคนละ 14 กับ 11 คะแนนจากชัยชนะเหนือ ฮอร์เน็ตส์ ทำสถิติ 8-13 นับตั้งแต่ โจเอล เอ็มบีด บาดเจ็บเข่าในช่วงปลายเดือนมกราคม

'ผมไม่เป็นไร' แม็กซี่ กล่าวถึงการถูกตีในช่วงควอเตอร์สองจนเลือดกำเดาไหล 'ผมบอกทุกคนว่าผมเป็นทหาร นั่นคือสิ่งที่มันเป็น แต่ผมกำลังเรียนบทเรียน UFC'

ขณะที่ นิค เนิร์ส เฮดโค้ชซิกเซอร์สกล่าวถึงผลงานของ ฮิลด์ ว่า 'ผมคิดว่า บัดดี้ คอยเราอยู่ตรงนั้นในช่วงครึ่งหลัง เขามีจุดที่ดีและมีบางอย่างดูดี เราทำได้แค่ 109 แต้ม แต่ผมคิดว่าเกมบุกมันดีจริงๆ'

ฮอร์เน็ตส์ ไล่ตามมาเกือบทั้งคืน ก่อนขึ้นนำ 89-88 หลัง ไมล์ส บริดเจส ชู้ตฟรีโทรว์ลงสองครั้งในการรัน 18-9 ขณะเหลือเวลาประมาณ 5 นาที หลังจากนั้นทั้ง แม็กซี่ และ ออเบร เข้าควบคุมเกมบุกจนทำ ซิกเซอร์ส แซงเข้าวินสำเร็จ

'มันมักจะขึ้นอยู่กับการสร้างช็อตชู้ตและการหยุดทำ' เนิร์ส กล่าว 'เราสามารถทำทั้งสองอย่างติดต่อกันในช่วง 3 นาทีสุดท้ายของเกม เรามีช็อตดีๆ 2-3 ช็อต ได้หนึ่งเพื่อหนึ่ง และเข้าไลน์ฟาวล์ตอนจบเกม แล้วเราก็ดีพอในการป้องกันที่จะหยุดตรงนั้นในช่วงท้ายเกม'

ซิกเซอร์ส ต้องดิ้นรนเพื่อปิดเกมหลังปราศจาก เอ็มบีด ภาระส่วนใหญ่จึงตกอยู่กับ แม็กซี่ การ์ดวัย 23 ปีที่มีชื่อติด ออล-สตาร์ ทีมครั้งแรก

'ผมต้องดุดันและหาทางให้เพื่อนร่วมทีมมีส่วนร่วมด้วย' แม็กซี่ กล่าว 'ผมต้องบอกให้พวกเขาช็อตที่พวกเขามีและพยายามดุดันต่อไปตลอดทั้ง 4 ควอเตอร์ มีหลายครั้งในควอเตอร์ที่ 4 (ไม่มี เอ็มบีด) ซึ่งผมไม่สามารถปิดเกมได้ เพราะผมใช้พละกำลังอย่างมากในช่วง 3 ควอเตอร์แรก ตอนนี้ผมต้องหาทางเป็นผู้เล่นดีสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ตลอดทั้ง 48 นาที'