หลังจากที่ทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในเกมไล่ตีเสมอ กาตาร์ 1-1 ช่วงท้ายเกม คว้าแต้มแรกประเดิมสนามกลุ่มบี ในศึกเอเชียนเกมส์ 2018 ได้สำเร็จ จนได้รับคำชมจากทั่วทุกสารทิศว่าทีมชุดนี้เล่นได้อย่างน่าเชียร์เพราะมีความทุ่มเทไล่บดคู่ต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย

ด้าน "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด กุนซือ บีจี เอฟซี ที่เคยร่วมงานกับผู้เล่นชุดนี้มาหลายคนสมัยเป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทยชุดยู-19 ก็เป็นอีกคนที่ออกมาชื่นชมแข้ง "ช้างศึก" โดยชี้ว่าผู้เล่นแดนกลางอย่าง สุภโชค สารชาติ, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา มีมาตรฐานสูงและพัฒนาตัวเองขึ้นมามากซึ่งเชื่อวาเกิดจากการแข่งขันที่เข้มข้นในศึกฟุตบอลไทยลีกที่ทำให้สภาพความฟิตของแต่ละคนพร้อมสำหรับเกมในระดับนี้

รวมถึง ศุภชัย ใจเด็ด ที่ "โค้ชจุ่น" เป็นโค้ชคนแรกที่จับ "เจ้าอาร์ม" ไปยืนกองหน้าตัวเป้าตั้งแต่ทีมชุดยู-19 ในช่วงที่อายุเพียง 17 ปีหลังจากก่อนหน้านั้นเล่นเป็นกองกลางมาโดยตลอด "โค้ชจุ่น" ก็ชื่นชมว่าเก่งขึ้นในทุกๆ ด้านและจะเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมชาติไทยชุดใหญ่ในอนาคต

ส่วน เจนรบ สำเภาดี หัวหอกกัปตันทีมชุดนี้ ที่มีโอกาสจบสกอร์หลายครั้งแต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตู "โค้ชจุ่น" ยืนยันว่า "กัปตันเจน" ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้ว แต่ดูเหมือนจะพยายามพิสูจน์คำวิจารณ์จนกลายเป็นการกดดันตัวเองมากเกินไป โดยหากหันมาประสานงานกับกับคนอื่นๆ มากขึ้นก็จะทำให้ฟอร์มของเจ้าตัวดีขึ้นอย่างแน่นอน

"เจนรบจังหวะยิงเขาดูจะรีบร้อนไปหน่อย เหมือนว่าจะพยายามพิสูจน์ตัวเองให้ได้จนกลายเป็นการกดดันตัวเอง ผมก็เคยคุยกับเขาตั้งแต่สมัยเขาอยู่เทโรว่าจะเอาใจช่วยพี่เป็นกำลังใจให้ ศักยภาพของเขานั้นสูงอยู่แล้ว คือเขาเป็นกองหน้าสไตล์ที่ใช้กำลังค่อนข้างเยอะ แต่บางครั้งเขาไม่ใช้พละกำลังมากขนาดนั้นก็ได้ เพราะเพื่อนร่วมทีมก็เก่งๆ ทั้งนั้น มีทั้งเชค, ยิม, เต๋า,โก้ คอยสร้างโอกาสให้เขาอยู่ และถ้าเขาใช้เพื่อนร่วมทีมเป็น เขาก็จะมีโอกาสทำประตูรวมถึงสร้างโอกาสให้เพื่อนได้มากกว่านี้" โค้ชจุ่นกล่าว