ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

กลุ่ม ซี  

วันอังคารที่ 18 กันยายน 2561

ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 3 - เปแอสเช (ฝรั่งเศส)  2

สนาม : แอนฟิลด์

ลิเวอร์พูล รองแชมป์ฤดูกาลที่แล้วให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เป็นเพียงสำรองเพราะเจ็บตาจากเกมกับสเปอร์สเมื่อสุดสัปดาห์ แนวรุกส่ง แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ลงเล่นร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ 

ส่วนปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไม่มี จานลุยจิ บุฟฟ่อน กับ มาร์โก แวร์รัตติ สองสตาร์อิตาเลียนติดโทษแบน แต่ข่าวดีคือทั้ง เนย์มาร์ และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กลับมาสู่ทีมหลังได้พักและติดโทษแบนในลีกตามลำดับ 

เริ่มเกมมานาทีที่ 6 หงส์แดงเจ้าถิ่นได้ลุ้นกอน เจมส์ มิลเนอร์ ป้ายเรียดจากขวาเลยมาเสาสองเข้าทาง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เอี้ยวตัวยิงทำเอา อัลฟงส์ อาเรโอล่า ต้องออกแรงบินปัด

ถัดมา มิลเนอร์ ได้ยิงเองระยะ 20 หลาก็ยังไม่ผ่านมือของ อาเรโอล่า เท่ากับว่า 11 นาทีแรก ลิเวอร์พูลได้ส่องเข้าเป้าแล้วทั้งสิ้น 4 ครั้ง

เปแอสเชได้จบหน้าประตูครั้งแรกเมื่อ เนย์มาร์ เลาะผ่าน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก่อนยิงติดเซฟ อาลีสซง เบ็คเกอร์

นาที 30 ลิเวอร์พูลนำ 1-0 จนได้เมื่อ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เก็บตกทางฝั่งซ้ายก่อนเปิดบอลสุดสวยเข้าหัว สเตอร์ริจด์ ได้ขวิดเน้นๆ บอลพุ่งเร็วและแรง สุดสัปดาห์ที่ อาเรโอล่า จะป้องกันไว้ได้ 

ลิเวอร์พูลเกือบได้อีกเมื่อ ซาลาห์ ทะลวงเข้าเขตโทษคืนให้ สเตอร์ริดจ์ พลิกยิงไม่ทัน จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ตามมาซ้ำติดบล็อกออกไปหวุดหวิด

สกอร์ไหลเป็น 2-0 ในนาที 36 ฆวน เบร์นาต แบ็กซ้ายปารีสเสียเหลี่ยมสอยขา ไวนัลดุม เป็นฟาวล์จุดโทษ ก่อนที่ขาประจำอย่าง เจมส์ มิลเนอร์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด 

เปแอสเชทวงคืนได้หนึ่งประตูในนาที 40  เอดินสัน คาวานี่ ตีลังกายิงผิดเหลี่ยมกลายเป็นดี บอลกระเด้งโดนตัว โรเบิร์ตสัน เข้าทางปืน โตมาส์ เมอนิเย่ร์ ตวัดด้วยซ้ายเบียดโคนเสาเข้าไป จบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล นำ 2-1

ครึ่งหลังนาที 58 ลิเวอร์พูลส่งบอลเข้าประตูครั้งที่ 3 ไวนัลดุม ยิงแฉลบแล้ว สเตอร์ริดจ์ ตามหวดชนกับ อาเรโอล่า แล้ว ซาลาห์ ซ้ำเข้าไปโล่งๆ ทว่าผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ไปก่อนแล้ว

สเตอร์ริดจ์ พลาดบวกสกอร์อีกแล้วเมื่อเจ้าหนูเทรนท์เติมทางขวาถวายพานให้แต่ดันสัมผัสบอลไม่ดีจจนโดน อาเรโอล่า เซฟเอาไว้ได้ 

นาที 72 ลิเวอร์พูล ส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลงมาแทน แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และจังหวะไม่กี่อึดใจถัดมาก็ได้ลุ้นจาก ฟาน ไดค์ โขกตั้งบอลให้ ซาลาห์ สับไกหลุดกรอบไปในระยะ 15 หลา

ท้ายเกม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ฮึดตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จเมื่อตัดบอลได้ในเดนลิเวอร์พูลก่อนเป็น เนย์มาร์ ลากจี้เข้าหา ฟาน ไดค์ ที่พยายามสกัดแต่กลายเป็นเด้งเข้าทาง เอ็มบั๊ปเป้ ได้กดด้วยขวาเน้นๆ ในเขตโทษไม่เหลือ 

ช่วงทดเจ็บ ลิเวอร์พูล นำอีกครั้งเป็น 3-2 เมื่อ เอ็มบั๊ปเป้ เสียบอลหน้าเขตโทษตัวเอง หงส์แดงตัดได้และบอลไปถึง ฟีร์มีโน่ ที่โชว์สเต็ปโยกหนีกองหลังปารีส ก่อนกดด้วยขวาระยะ 14 หลา บอลพุ่งวาบเสียบเสาอย่างสวยงาม ทำให้จบเกม ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3-2 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : อาลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เวอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, แดเนียล สเตอร์ริดจ์, ซาดิโอ มาเน่

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง : อัลฟงส์ อาเรโอล่า - โตมาส์ เมอนิเย่ร์, ติอาโก้ ซิลวา, เพรสเนล คิมเปมเบ้, ฆวน เบร์นาต - อาเดรียง ราบิโอต์, มาร์กินโญส, อังเคล ดิ มาเรีย - คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, เอดินสัน คาวานี่, เนย์มาร์

ผู้ตัดสิน : ชูเนย์ต ชาคีร์ (ตุรกี)