ธีรศิลป์ แดงดา ตกเป็นตัวสำรองถูกส่งลงสนามในช่วง 1 ชั่วโมงของเกมอย่างต่อเนื่องให้กับ ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิม่า ทีมจ่าฝูงศึกเจลีก ของญี่ปุ่น จนไม่นานนี้มีกระแสข่าวออกมาว่า กว่างโจว เอเวอร์กรานเด้ ทีมมหาเศรษฐีแห่งศึกไชนีส ซูเปอร์ลีก เตรียมทุ่มเงิน 50 ล้านบาทเพื่อขอซื้อตัวจาก เอสซีจี เมืองทองฯ ไปร่วมทีม เมื่อหมดสัญญายืมตัวกับทีมดังแดนปลาดิบ

ซึ่งเรื่องนี้ พ.อ.อ.ประสิทธิ์ แดงดา คุณพ่อของ "มุ้ย" เปิดเผยกับ THSPORT ว่าได้ยินข่าวมาเช่นกัน และมีความเป็นไปได้ที่ทีมจากจีนจะแสดงความสนใจ แต่ไม่เชื่อว่าจะเป็น กว่างโจว เอเวอร์กรานเด้ ที่มีสตาร์ดังเลือดแซมบ้าในแนวรุกอย่าง ริคาร์โด้ กูลาร์ท และ อลัน จองสัมปทานแดนหน้าอยู่ 

โดย "พ่อมุ้ย" ยืนยันว่าลูกชายวางแผนไว้ว่าจะค้าแข้งในญี่ปุ่นสัก 3 ปีก่อนเบนเข็มมาเป็นโค้ชหรือทำธุรกิจเกี่ยวกับอคาเดมี่ฟุตบอล โดยศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งทีมชาติไทยนั้นมีความใฝ่ฝันว่าอยากทำงานเป็นผู้อำนวยการสโมสรในอนาคตหลังแขวนสตั๊ด เพื่อวางโครงสร้างพัฒนาฟุตบอลเมืองไทยให้ถูกต้องตามปรัชญาที่ตนเองผ่านประสบการณ์มาโดยตรง

ส่วนอนาคตการค้าแข้งในญี่ปุ่นนั้น พ.อ.อ.ประสิทธิ์ ระบุว่าคงยากที่จ่าฝูงเจลีกจะยืมตัวต่อหรือซื้อขาด เพราะในเงื่อนไขสัญญาระบุว่าจะต้องมีการเจรจากันก่อนจบฤดูกาล แต่ตอนนี้เจลีก 2018 เหลืออีกเพียง 8 นัดเท่านั้น แต่ยังไม่มีการติดต่อไปยังทีม "กิเลนผยอง" ต้นสังกัดที่แท้จริง ซึ่งอนาคตก็ต้องขึ้นอยู่กับ เมืองทอง ว่าจะรับข้อเสนอทีมใดหรือไม่ 

แต่หากกลับมาค้าแข้งที่เมืองไทย ก็จะเล่นให้ เอสซีจี เมืองทองฯ ทีมเดียวเท่านั้นจนแขวนสตั๊ด โดยเชื่อว่าลูกชายจะมีความสุขมากกว่าหากได้ลงเล่นฟุตบอลเต็มที่ในสไตล์ที่ตัวเองถนัด ซึ่งมองว่าขณะนี้ "มุ้ย" ยังไม่มีโอกาสรีดศักยภาพออกมาโชว์ได้มากนัก เพราะมีโอกาสลงสนามแต่ละเกมเพียงแค่ประมาณ 30 นาทีเท่านั้นในช่วงครึ่งหลัง