หลังจากที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานที่ปรึกษาสโมสร สุโขทัย เอฟซี ออกมาเปิดเผยว่าในวันศุกร์ที่ 19 ต.ค. นี้ ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยจะมีการประชุมใหญ่โดยหนึ่งในวาระประชุมคือการที่สโมสร บรูไน ดีพีเอ็มเอ็ม จะขอเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก โดยยินดีซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกลับไปยังประเทศบรูไน รวมถึงออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดยามที่ทีมจากไทยต้องเป็นฝ่ายไปเยือน และทางบิ๊กบอส "ค้างคาวไฟ" แนะนำว่าควรเพิ่มทีมในไทยลีกเป็น 20 ทีมและจัดให้ทีมที่ตกชั้นในฤดูกาลนี้มาเพลย์ออฟกันเพื่อให้เหลือตกชั้นเพียงแค่ 2 ทีมนั้น

ล่าสุด นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศของสมาคมฟุตบอล ออกมายืนยันว่าเป็นความจริงที่สโมสรจากบรูไนแสดงความจำนงค์อยากเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ทว่าเป็นเรื่องเก่าที่บรูไนส่งเรื่องมานานแล้ว โดยขั้นตอนการอนุมัติต้องผ่านทั้งมติของสโมสรสมาชิก ก่อนจะส่งเรื่องไปยังเอเอฟซี และต่อไปที่ฟีฟ่า ซึ่งไม่มีทางเกิดขึ้นในปีสองปีนี้แน่นอน

"ทางบรูไนแสดงความจำนงค์มานานแล้วครับ แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าไปกว่าเดิม คือเขายังไม่ได้ระบุว่าการเข้ามาจะทำให้สโมสรสมาชิกหรือฟุตบอลไทยได้ประโยชน์อะไรบ้าง การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการเดินทางจะครอบคลุมการเดินทางในประเทศด้วยหรือไม่ เพราะหลายๆ จังหวัดก็ไม่ได้มีสนามบินนานาชาติที่บินตรงไปบรูไนได้เลย เรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ก็ยังไม่มีความชัดเจน"

"ถ้าถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ก็ต้องบอกว่าเป็นไปได้และไม่ได้ผิดกฎข้อบังคับสมาคมเพราะถือเป็นเคสพิเศษที่เหมือนกับหลายๆ ลีกในโลกนี้ที่มีทีมต่างชาติเข้าไปร่วมแข่งขัน ถ้ามีการเจรจากันต่อก็ยังต้องหาข้อสรุปอีกหลายเรื่องทั้งโควตาผู้เล่นหรือการเลื่อนชั้นตกชั้น ต่างจากเอสลีกและเอ็มลีกที่เขาเคยเข้าร่วม เพราะลีกนั้นไม่มีการตกชั้น"

"แน่นอนว่าถ้าเงื่อนไขน่าสนใจ ก็ต้องนำเข้าที่ประชุมเพื่อขอมติจากสโมสรสมาชิกก่อน แล้วต้องส่งเรื่องไปที่เอเอฟซี จากนั้นเอเอฟซีก็จะส่งต่อไปฟีฟ่า ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้คงไม่เสร็จภายในปีเดียวแน่นอน และในวันศุกร์นี้การประชุมประจำเดือนของสมาคมก็ไม่ได้มีวาระนี้ วาระของการประชุมก็คือการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันทั่วไปของทีมในไทยลีกและที2เท่านั้นเองครับ" นายพาทิศกล่าว