เกมนี้บอร์กโดซ์ส่ง จิมมี่ บริย็องด์ หัวหอกจอมเก๋านำแนวรุก ส่วน ปารีส แซงต์-แชร์กแมงที่ชนะมา 14 นัดรวดในลีก เอิง และเพิ่งอัดลิเวอร์พูล 2-1 ในถ้วยยุโรป พัก เอดินสัน คาวานี่ เป็นสำรอง แต่แนวรุกอื่นลุยต่อทั้ง เนย์มาร์, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ และ อังเคล ดิ มาเรีย 

เกมในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก บอร์กโดซ์ มีโอกาสได้ลุ้นหลายหนทั้งจาก จิมมี่ บริย็องด์, ยาโรสลาพ พลาซิล และ ฟร็องซัวส์ กามาโน่ แต่ก็พลาดไปหมด 

พอทำไม่ได้กลับเป็นปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่กดประตูนำก่อนจากจังหวะที่ เนย์มาร์ ถ่ายบอลออกขวาให้ ดาเนี่ยล อัลเวส ได้เปิดย้อนเข้าเขตโทษ เนย์มาร์ วิ่งมายิงนิ่มๆ 12 หลาตุงตาข่าย และเป็นประตูเดียวที่เกิดขึ้นในครึ่งแรก

ครึ่งหลังนาที 53 บอร์กโดซ์ตามตีเสมอ 1-1 เมื่อ ยันน์ คาราโมห์ กระชากบอลถึงสุดเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดหักเข้ามาให้ จิมมี่ บริย็องด์ ปิดบัญชีด้วยขวาเข้าไป 

แต่เปแอสเชก็นำอีกครั้งในนาที 66 ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ แทงบอลทะลุช่องสุดสวยให้ เอ็มบั๊ปเป้ หลุดเดี่ยวก่อนซัดเต็มข้อด้วยขวาในเขตโทษไม่เหลือโดยจังหวะยิงเสร็จ เจ้าตัวส่งสัญญาณเปลี่ยนตัวเพราะมีอาการบาดเจ็บ แต่ โธมัส ทูเคิ่ล ยังไม่เปลี่ยน ทำให้ต้องฝืนเล่นต่อ

นาที 71 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง พลาดได้ประตูอีกครั้งเมื่อ เอริค มักซิม ชูโป-โมติง จ่ายบอลให้ อังเคล ดิ มาเรีย ปั่นด้วยซ้ายลูกถนัด แต่บอลพุ่งไปชนคานอย่างจัง 

ท้ายเกมนาที 84 บอร์กโดซ์ ไล่ตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จเมื่อ มักซิม ปุนเช่ เติมขึ้นทางฝั่งซ้ายก่อนเปิดบอลให้ อันเดรียส คอร์เนลิอุส โขกตัดหน้า ติอาโก้ ซิลวา โดยที่ อัลฟงส์ อาเรโอล่า ปัดได้แต่บอลก็ยังเข้าประตูอยู่ดี  

ผลเสมอนัดนี้ทำให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ถูกหยุดสถิติชนะรวดเอาไว้ที่ 14 นัด แต่ก็นำจ่าฝูงด้วยการมี 43 คะแนน มากกว่า มงต์เปลลิเย่ร์ 14 คะแนน ส่วน บอร์กโดซ์อยู่ที่ 11 มี 18 คะแนน