พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ออกมาชี้แจงถึงคดีความเรื่องศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก ว่ายังต้องดำเนินการตามขั้นตอนในศาลต่อไป
โดยหลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลขอให้นายวรวีร์ เปิดทางภาระจำยอมหรือทางจำเป็นเพื่อเป็นทางเข้าออกศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ หนองจอก เนื่องจากที่ดินที่ตั้งอาคารที่ทำการ อาคารที่พักนักกีฬา และสนามซ้อมรวมสองแปลงถูกปิดล้อมโดยที่ดินของนายวรวีร์ จนไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะนั้น
นายวรวีร์ก็ได้ให้การปฏิเสธฟ้องและฟ้องแย้ง เป็นประเด็นดังต่อไปนี้
1. ให้สมาคมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 73246, 73247 และ 409 ตำบลหนองจอก อำเภอหนองจอก กรุงเทพมหานคร รวม 3 แปลง คืน โดยให้สมาคมเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมและอากรแสตมป์ ตลอดจนภาษีเงินได้ในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งสามแปลงแต่เพียงผู้เดียว
2.หากไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้ง 3 แปลง ตามข้อ 1. คืนได้ให้สมาคมชดใช้ราคาที่ดีทั้ง 3 แปลงเป็นเงิน 50 ล้านบาท (ห้าสิบล้านบาทถ้วน) พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องแย้งเป็นต้นไปจนกว่าสมาคมจะชำระเงินเสร็จอ้างว่าสมาคมเนรคุณนั้น
ล่าสุด พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า "คดีความเรื่องศูนย์ฝึกฟุตบอลที่หนองจอก เราต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน เพราะเรามั่นใจว่าที่ดินที่อดีตนายกสมาคมฯ มอบให้กับสมาคมฯ นั้น มันเป็นที่ดินที่ไม่มีทางออก สิ่งที่อดีตนายกสมาคมฯ แจ้งว่าจะขอที่ดินคืน ต้องดำเนินการสู้ในศาลกันต่อไป เป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่ผมต้องแบกภาระ เพราะคดีที่เกิดขึ้นไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะหลักฐานผมไม่ได้ไปเสกสรร ปั้นแต่งขึ้นมา มันเป็นพยานหลักฐานในอดีต ซึ่งถูกนำไปใช้ในศาล เมื่อผมหรือฝ่ายกฏหมายเห็นหลักฐานนั้น มันจำเป็นต้องดำเนินคดีต่อไป”
“ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่รออยู่ข้างหน้า ไม่ใช่แค่การพัฒนาฟุตบอลเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึงเรื่องคดีความด้วย ถ้าผมไม่อยู่ตรงนี้ไม่แน่ใจว่ามันจะอยู่ เปลี่ยนแปลง หรือบิดเบือนจากความเป็นจริงอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมกังวลอยู่ในตอนนี้”
