เมซุต โอซิล อดีตเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติ เยอรมัน ออกมาแสดงความเห็นในเชิงยอมรับว่ามีการแบ่งกั๊กแบ่งเหล่าในหมู่แข้ง อินทรีเหล็ก จริงๆ ระหว่างพวกดอยช์แท้กับกลุ่มลูกผสม ซึ่งฝั่งแรกจะมีอิทธิพลมากกว่า
ประเด็นนี้เคยถูกขุดคุ้ยมาแล้วระหว่าง ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2018 โดยสื่อฯคุณภาพเมืองเบียร์ทั้ง 'สปอร์ต บิลด์' หรือ 'คิกเกอร์' ถึงกำแพงที่ก่อขึ้นในล็อคเกอร์ รูม จนเป็นผลให้แชมป์เก่าตกรอบแรกแบบน่าอนาถ
กระทั่งล่าสุดแถลงการณ์จากสมาคมฟุตบอลเยอรมัน (เดเอฟเบ) ว่าในอนาคต ทางบุนเดสเทรนเนอร์ โยอัคคิม เลิฟ จะไม่เรียกใช้งาน 3 เก๋าสังกัด บาเยิร์น มิวนิค คือ โธมัส มุลเลอร์, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ และ เยอโรม บัวเต็ง ติดธงอีก
ซึ่งมันคงไร้เรื่องราวให้จับผิดเพราะทั้งสามก็วัยวุฒิพอสมควร ทีมอาจอยากถ่ายเลือด แต่พอตัวรุกค่าย อาร์เซน่อล ทวีตแสดงความผิดหวังโดยเอ่ยถึงเพียง บัวเต็ง คนเดียว ประเด็นแคมป์ทีมชาติเยอรมันแตกแยกจึงปะทุขึ้นมาอีกหน
https://twitter.com/DFB_Team/status/1102940487999213574
เดเอฟเอ ไม่เอา 3 คนนี้แล้ว
ทวีตผ่านบัญชี @MesutOzil1088 ใจความว่า "เชิดหน้าขึ้นสู้ไว้พี่ชาย ตั้งแต่เราได้เล่นนามทีมชาติชุดเยาวชนร่วมกัน ก็มีโอกาสเฉลิมฉลองช่วงเวลาดีๆหลายหน"
"นายคือเพื่อนแท้ และเป็นคนนิสัยดีทั้งในรวมถึงนอกสนาม"
"ส่วนตัวผมรู้สึกเสียใจที่ 1 ในนักเตะเยอรมันฝีเท้าดีสุดรอบทศวรรษ ต้องบอกลาทีมชาติไปในลักษณะนี้"
สามสมาชิกหัวโจกแบ่งก๊ก-เหล่า โดนเขี่ยทิ้งหมด
ดราม่าต่อเนื่องทันทีว่ากลุ่มสามคนล่าสุดนี้ รวมถึง โอซิล คือตัวปัญหาตั้งแต่ก่อนเตรียมทีมสู้ศึกเวิลด์ คัพ ฉบับรัสเซีย โดย มุลเลอร์ กับ ฮุมเมิ่ลส์ อยู่ฝั่งดอยช์เลือดบริสุทธิ์ ขณะที่ บัวเต็ง (กานา) ควงแขน โอซิล (เติร์ก) เป็นขาใหญ่ฝั่งเลือดผสม
ดังนั้นบุนเดสเทรนเนอร์ จึงเลือกตัดเนื้อร้ายทิ้งให้หมด เหลือเพียงแข้งที่เดินทางสายกลางอย่างเลือดแท้ มานูเอล นอยเออร์ กับ โทนี่ โครส โดยมีขาใหญ่เลือดผสม อิลคาย กุนโดกัน คานอำนาจ
