แผนการเล่น : 4-3-3

ประตู : อภิรักษ์ วรวงษ์ (สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด) 

ยืนตำแหน่งได้ยอดเยี่ยม เสมือนมีแม่เหล็กดูลูกบอลให้พุ่งมาในตำแหน่งที่เฝ้าอยู่ตลอด โชว์ฟอร์มเซฟประตูตลอดทั้งเกมและออกมาตัดบอลสวยๆ ได้หลายครั้ง ไม่แน่เหมือนกันว่าหาก สรานนท์ อนุอินทร์ ประตูมือหนึ่งหายเจ็บกลับมาแล้วจะทวงตำแหน่งคืนได้หรือไม่  

กองหลัง : เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี)

ฟอร์มแรงต่อเนื่องอีกนัดสำหรับวิงแบ็กลูกครึ่งไทย-สวีดิช เติมเกมบุกทางฝั่งซ้ายร่วมกับ บดินทร์ ผาลา ได้อย่างลงตัวสุดๆ เกมนี้ทำประตูได้จากจังหวะวิ่งโอเวอร์แล็บขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษและหลอกยิงเสาแรกอย่างสวยงาม

กองหลัง : เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (นครราชสีมา มาสด้า)

"กัปตันเหลิม" คุมเกมแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง คอยเบียดปะทะไม่ให้แนวรุกของ เมืองทอง ได้โอกาสส่องประตูง่ายๆ มีจังหวะเข้าบล็อคและสกัดบอลสำคัญๆ โดยตลอด และยังคอยเปิดบอลจากแนวลึกได้สวยๆ หลายครั้ง

กองหลัง : จักพัน ไพรสุวรรณ (สมุทรปราการ ซิตี้)

"เจ้านุก" ยังคงมีทีเด็ดจากลูกนิ่งที่หวังผลได้เสมอ เกมนี้จังหวะได้ประตูก็มีจุดเริ่้มต้นมาจากลูกเตะมุมของเจ้าตัว รวมถึงช่วงท้ายเกมยังเกือบทำประตูชัยให้ทีม "เขี้ยวสมุทร" จากลูกฟรีคิกอีกด้วย

กองหลัง : อลงกรณ์ ประทุมวงศ์ (ชลบุรี เอฟซี)

"เจ้าแจ็ค" ช่วยสกัดบอลจากเส้นแบบหวุดหวิด และยังคอยช่วยป้องกันเกมริมเส้นฝั่งซ้ายได้อย่างมีวินัย แถมยังมีโอกาสลุ้นทำประตูจากการส่องไกลระยะกว่า 40 หลาเกือบเป็นประตู ถือเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมแม้ทีมเก็บ 3 แต้มไม่ได้แต่ปราการหลังวัยย่าง 33 ปีก็มีส่วนอย่างมากกับการรักษาคลีนชีทในเกมนี้

กองกลาง: บดินทร์ ผาลา (การท่าเรือ เอฟซี)

ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจสำหรับ "เจ้าโดม" เบสิกเฟิร์สทัช, การจับบอล, เลี้ยงบอล รวมถึงจบสกอร์ ดูแล้วเพลินตาไปหมด ยิ่งพอได้ เควิน ดีรมรัมย์ มาคอยช่วยประสานงานทางฝั่งซ้าย ดูเข้ากันทั้งเซนส์บอลและเทคนิค ถ้าเล่นดีสม่ำเสมอแบบนี้ไปเรื่อยๆ โอกาสคัมแบ็คสู่ทีมชาติไทยอีกครั้งก็เป็นไปได้สูงทีเดียว

กองกลาง : โก ซึล กี (การท่าเรือ เอฟซี)

รักษาสมดุลเกมแดนกลางให้ "สิงห์เจ้าท่า" ได้เนียนกริบ ทั้งรุกและรับส่วนใหญ่จะเริ่มต้นมาจากบอลของมิดฟิลด์แดนโสม เกมนี้โดดเด่นมีสง่าราศีทั้งยิงประตูด้วยการวอลเลย์เต็มข้อ และแอสซิสต์ให้บดินทร์ ยิงอีก 1 ประตู 

กองกลาง : วิลเลียม เฮนริเก้ (สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด) 

หัวหอกจอมพลิ้วเลือดแซมบ้าเหมือนกับลงไปเต้นระบำอยู่บนฟลอร์หญ้า ทุกครั้งที่ได้สัมผัสบอลจะสร้างความปั่นป่วนทางริมเส้นฝั่งขวาได้เสมอ เกมนี้เลี้ยงเป็นหลุดฉีกกองหลังของ ราชบุรี เป็นชิ้นๆ และเหมาทำคนเดียวไปทั้ง 2 ประตู 

กองหน้า : เนลสัน โบนีญ่า (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด) 

เป็นกองหน้าความหวังอันดับหนึ่งของ "แข้งเทพ" ที่จะขาดไปไม่ได้ ณ ชั่วโมงนี้ นัดไหนหากท็อปฟอร์มก็ยากเหลือเกินที่กองหลังทีมใดจะต้านอยู่ เกมนี้ยิงไป 2 ประตู และมีส่วนร่วมกับทุกจังหวะในเกมรุกของเจ้าถิ่น พร้อมกับพาทีมกลับมาคว้า 3 แต้มเต็มได้อีกครั้ง 

กองหน้า : ไมค์ ฮาฟนาร์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)   

อดีตหัวหอกทีมชาติญี่ปุ่นทำประตูได้เป็นเกมที่สองติดต่อกัน ที่สำคัญเกมนี้ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงและประสานงานกับ เนลสัน โบนีญ่า ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เกมนี้โหม่งได้ 1 ประตูและแอสซิสต์ด้วยการเปิดบอลน้ำหนักสุดเป๊ะให้ โบนีญ่า ยิงอีกลูกด้วย ถือว่าฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆ และน่าจะเป็นคู่ขาที่ลงตัวที่สุดกับ โบนีญ่า ในทีม "แข้งเทพ" ตอนนี้

กองหน้า : เลอันโดร อัสซัมเซา (นครราชสีมา มาสด้า) 

3ประสานผู้เล่นต่างชาติในแนวรุกของ "สวาดแคท" เล่นกันได้ดีและมีส่วนร่วมกับทั้ง 3 ประตูในเกมนี้ แต่หัวใจสำคัญต้องขอยกให้ "อัสซ่า" ที่เล่นแบบไม่หวงบอลและคอยสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมลุ้นประตูอยู่เสมอ นัดนี้ทำไป 1 ประตูและมีส่วนร่วมกับทุกๆ ประตูีที่ทีมทำได้

เฮดโค้ช : จเด็จ มีลาภ (การท่าเรือ เอฟซี)

"มาสเซอร์เด็จ" พาทีมทะยานขึ้นรั้งตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ ด้วยผลงานชิ้นโบว์แดงด้วยการไล่อัด พีที ประจวบ ยับเยินถึง 5-0 ตอนนีู้้ผู้เล่นทั้งชุดแรกและตัวสำรองของ "สิงห์เจ้าท่า" ต่างกันพาโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง โดยเฉพาะ บดินทร์ ผาลา ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขุมกำลังสำรองก็ถือว่าเปลี่ยนลงไปแล้วเห็นผลตลอด การจัดการทีมที่มีขนาดใหญ่แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งตอนนี้กุนซือวัย 47 ปีกำลังทำได้ดีอย่างยิ่ง