อัลเบร์โต้ โมเรโน่ แบ็กซ้ายสแปนิชที่กลับมายึดตัวจริงในทีม ลิเวอร์พูล รวมถึงได้เรียกติดทัพ 'กระทิงดุ' อีกครั้งรอบสามปีเผยว่า ทัศนคติที่เปลี่ยนไประหว่างฤดูกาลก่อนทำให้มีวินัยเกมรับมากขึ้น
โมเรโน่ ลงสนามเป็นตัวจริงให้ต้นสังกัด 9 นัด ในพรีเมียร์ลีก มีส่วนกับสามคลีนชีตทั้งที่ฤดูกาล 2016-17 เป็นผู้เล่นโลกลืมที่เสียตำแหน่งแบ็กซ้ายให้กับ เจมส์ มิลเนอร์
โดยกองหลังคุณพ่อลูกหนึ่งเผยว่าพัฒนาการที่ดีขึ้นของซีซั่นนี้มาจากทัศนคติการเล่นที่ไม่คิดแต่จะบุกท่าเดียว
"เป็นเรื่องจริงที่ผมโฟกัสกับเกมรับมากขึ้น" แข้งวัย 25 กะรัตให้สัมภษณ์กับ เดลี่ เมล
"ผมได้เรียรู้มากขึ้นมาเมื่อไหร่ควรทะยานไปข้างหน้า หรือตอนไหนไม่จำเป็น อาจเป็นเพราะ 2-3 ปีแรกกับ ลิเวอร์พูล มันคิดเพียงต้องบุก!ต้องบุก!"
สถิติเปรียบเทียบระหว่างฤดูกาลนี้กับปีก่อน โมเรโน่ พัฒนาขึ้นทุกด้านในเกมรับ
"แต่กับฤดูกาลใหม่ผมโฟกัสกับตำแหน่งตัวเองมากขึ้น ความคิดเปลี่ยนไปว่าต้องป้องกัน, รักษาคลีนชีต มันคือสิ่งแรกที่ต้องคำนึงก่อนตะบี้ตะบันลุยขึ้นไป"
สถิติต่างๆของอดีตฟูลแบ็ก เซบีย่า ก็ดีขึ้นมาก 13 นัดทุกรายการแท็คเกิ้ลสำเร็จ 15 ครั้ง, สกัดกั้น 32 และที่น่าทึงคือแย่งโหม่งชนะถึง 14 ครั้ง
"ตอนนี้ในสนามมีเรื่องในหัวให้ตัวสินใจตลอด อย่างกรณีขึ้นไปลุยหากผมมั่นใจว่าสามารถลงมาคุมพื้นที่ตัวเองได้ทันก็จะบี้ขึ้น แต่หากคิดว่าไม่ ก็จะเปลืองแรงให้น้อยลงแล้วรักษาความแน่นอนไว้"
กองหลังสแปนิชทิ้งท้ายว่าการฟังให้มากขึ้นก็ช่วยในการพัฒนาจนยืนหยัดเป็นแบ็กซ้ายเบอร์หนึ่งของ 'หงส์แดง'
"ยังเป็นผู้ฟังที่ดี ไม่แค่เฉพาะ (เจอร์เก้น) คล็อปป์ ที่ตะโกนมาจากข้างสนาม ยังมีเซนเตอร์แบ็กอย่าง เดยัน ลอฟเรน หรือ รักนาร์ คลาวาน มักสังการว่า - 'อัลบี้'! อย่าพึงขึ้น, อับบี้ ลุยเลย หรือ อัลบี้ ช่วยแทนตำแหน่งด้วย มันมีการสื่อสารมากขึ้น"
ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านพบกับ เซาธ์แฮมป์ตัน เสาร์นี่ กับเป้าหมายคลีนชีตหนที่ 4 ของซีซั่น
