สตีฟ เคอร์ หัวหน้าโค้ช โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมปรี-ซีซั่นที่เอาชนะ มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์ 143-123 คะแนน ตอบโต้ความเห็นของ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมพ์ ซึ่งมีต่อเขาว่าเป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่บ้านเมือง แต่ถนัดแค่สร้างความแตกแยก
ต่อเนื่องจากเมื่อวันพุธ (ตามเวลาท้องถิ่น) ทรัมพ์ ลงมาล้วงลูกด้วยตัวเองถึงดราม่าระหว่างลีกเอ็นบีเอ กับรัฐบาลจีน ว่าต้องจัดการปัญหาให้จบ ทางทำเนียบขาวไม่ขอเอี่ยว ส่วนโค้ชทรงอิทธิพลอย่าง สตีฟ เคอร์ ซึ่งทีแรกไม่ยอมเทกแอ็คชั่นเพื่อช่วยแก้ต่างให้สถานการณ์ดีขึ้นนั้น ก็ทำตัวเหมือนเด็กน้อย เลี่ยงแสดงความเห็น
งานนี้ดีกรีกุนซือแชมป์ 3 สมัยไม่อยู่เฉยให้โดนด่าฟรีตอกกลับว่า มิสเตอร์เพรสซิเดนท์คงว่างมากถึงสาระแนเรื่องชาวบ้าน ทั้งที่งานหลักตัวเองก็ทำไม่เสร็จสักอย่าง
"คุณน่าจะหยุดเพื่อนั่งคิด ว่านี่ก็อีกวัน ต่อไปก็อีกวัน (ที่หาเรื่องทะเลาะใครต่อใคร) - น่าจะตระหนักว่าตัวฉันกลายเป็นพวกจับจด งานเมื่อวานยังไม่เสร็จ วันนี้หาเรื่องใหม่ รวมถึงก็สร้างงานอีกในวันถัดไป โชว์ปาหี่ไปเรื่อย" โค้ชเคอร์กล่าวกับ 'ดิ แอธเลติค'
เขายังพูดถึงประสบการณ์เข้าทำเนียบขาวตั้งแต่ยังเป็นเด็ก พบปธน.มาหลายคนแต่ไม่มีรายไหนรุงรังแบบ ทรัมพ์
ทรัมพ์ ปธน.ที่ทำตัวเล่นปาหี่
"ชีวิตผมถือว่ามีวาสนาได้โอกาสพบประธานาธิดีสหรัฐฯ 5 คนได้มั้งก่อนมาถึง โดนัลด์ ทรัมพ์ - ย้อนไปหนแรกปี 1984 สมัย โรนัลด์ เรแกน ดำรงตำแหน่ง เขาเชิญผมพร้อมด้วยคุณแม่เข้าไปพบจำได้ว่า 6 เดือนหลังการเสียชีวิตของคุณพ่อ จากเหตุก่อการร้ายในเลบานอน"
"มิสเตอร์ เรแกน พร้อมรองปธน.จอร์จ เอช.ดะบลิว บุช ชวนเราแม่-ลูกเข้าไปนั่งในห้องทำงานรูปไข่ พวกเขานั่งคุยราวครึ่งชั่วโมงเพื่อขอบคุณความเสียสละของคุณพ่อ...อนึ่งคืนที่ผ่านมาผมก็นั่งคิดถึงเรื่องที่ ทรัมพ์ ปฏิบัติ มันช่างแตกต่างจากเมื่อ 35 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง"
"เขาไม่เคยเคารพใครหากเห็นต่างทางการเมือง...เพราะตามพื้นฐานหากคุณคืออเมริกัน ฐานะเจ้าหน้าที่รัฐคุณควรให้เกียรติและเคารพผู้อื่นด้วย"
"เรื่องมันเศร้าที่สิ่งเหล่านั้นได้พังทลายลงแล้ว"
https://twitter.com/anthonyVslater/status/1182459424280956929
เคอร์ มองว่า ทรัมพ์ บุคลิกต่างจาก 5 ปธน.ก่อนนั้นที่เขาเคยเจอ
ปิดท้าย สตีฟ แจงสาเหตุที่ไม่อยากออกความเห็นเกี่ยวดราม่าระหว่าง เอ็นบีเอ กับ รัฐบาลจีน เนื่องจากไม่อยากสร้างงานให้คนซึ่งพยายามเคลียร์ปัญหา
"สำหรับผมแล้วการนั่งจุดนี้แล้วพูดว่า - สบายใจนะขออยู่เฉยไว้เพราะที่นั่นมันไม่ใช่บ้านเรา ก็เหมือนกรณีผมงดออกความเห็นเรื่องสงครามการค้า เนื่องจากเราไม่มีความรู้จริงกับสิ่งนั้น"
"แต่หากเป็นเรื่องที่เกิดกับประเทศเราเอง - ให้เหลาได้หมดสบายมาก เพราะตัวเองคือผู้ถือสัญชาตินี้ ... ดังนั้นการล่อเป้าเข้าคลุกต่อเรื่องปัญหาคงทำให้ตัวเองรู้สึกไม่สบายใจ"
"คิดว่าเป็นคำอธิบายที่สมเหตุสมผลพอจะลบล้างข้อกล่าวหาว่าผมเป็นไอ้เด็กน้อยปอดแหกได้นะ" เคอร์ ทิ้งท้าย
ภารกิจรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมา
เวลานี้ปธน.คนที่ 45 ของ สหรัฐฯอยู่ระหว่างเดินสายพบประชาชนที่เมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินเนโซต้า หาเสียงไว้เผื่อเลือกตั้งสมัยหน้า พ.ย.2020
