แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่เจ็บจากเกมยุโรป ฟิตทันลงเล่น ส่วน ไบรท์ตัน ส่ง  แอรอน คอนนอลลี่ ที่กำลังฟอร์มเฉียบ ประสานงานแดนหน้ากับ นีล โมเปย์

เริ่มเกมได้ 17 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0 เปเรยร่า จ่ายเข้าไปทางซ้ายของเขตโทษ มาร์กซิยาล จับแล้วจ่ายคืนมาให้ เปเรยร่า ตวัดยิงด้วยซ้ายแฉลบ เดล สตีเฟนส์ เข้าประตูไป 

อีก 2 นาทีถัดมา ผีแดงหนีเป็น 2-0 เฟร็ด เปิดฟรีคิกเข้าไปในเขตโทษ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โขกต่อสั้นๆ บอลขลุกขลิกปากประตู แม็ตต์ ไรอัน รับไม่อยู่ พร็อพเพอร์ พยายามสกัดแต่กลายเป็นทำเข้าประตูตัวเอง จอน มอสส์ ผู้ตัดสินในเกมเช็กวีเออาร์อีกรอบก่อนยืนยันว่าโปร่งใส 

ท้ายครึ่งแรก ไบรท์ตัน ได้ฟรีคิกทางขวาเหมือนเดิม ทรอสซาร์ เปิดยาวเข้าไปให้ แอรอน คอนนอลลี่ โขก แต่บอลเลยเสาสองออกหลัง ทำให้จบ 45 นาที ผีแดงนำ 2-0 

ครึ่งหลังเล่นได้ 10 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ได้กดดันจากจังหวะที่ มาร์กซิยาล ได้ลองสับไกจากบริเวณหน้าเขตโทษ บอลไปโดนมือของ เชน ดัฟฟี่ ฟ้องจะเอาแฮนด์บอล แต่กรรมการไม่ได้ว่าอะไร

มาถึงนาทีที่ 60 ผีแดงได้ลุ้นอีก เฟร็ด ได้บอลทางขวาหน้าเขตโทษของ ไบรท์ตัน พลิกมายิงด้วยซ้าย ไรอัน เซฟจังหวะแรกบอลกระฉอกเกือบจะหล่นในประตู แต่คานช่วยหวุดหวิด 

เจ้าบ้านขยับสกอร์ไป 3-1 ในนาที 66 เฟร็ด จ่ายบอลให้ มาร์กซิยาล รับบอลใช้ความแข็งแกร่งเอาชนะ ดัฟฟี่ ลากผ่าน ไรอัน ดึงแล้วจ่ายมาให้ แรชฟอร์ด จับแล้วยิงด้วยขวา ส่งบอลเช็ดใต้คานเข้าประตู

แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดได้ประตูเหลือเชื่อเมื่อได้โต้มาทางขวาโดย เจมส์ คนเดิม ลากเข้าเขตโทษ ดึงหลอก ดังค์ แล้วเปิดเรียดไปทางเสาสอง แรชฟอร์ด ยิงโล่งๆ แต่ทำบอลหลุดเสาเหลือเชื่อ

นาที 71 แมนฯ ยูไนเต็ดเกือบได้ แบรนดอน วิลเลียมส์  ยิงด้วยขวาในเขตโทษ แม็ทธิว ไรอัน ซูเปอร์เซฟเอาไว้ได้ จากนั้นอีกนาที แรชฟอร์ด โยนให้ เจมส์ ชาร์จจ่อๆ ไม่ถึง 5 หลา แต่ติดเซฟเหลือเชื่อ

เข้าสู่ 15 นาทีท้าย เกมหยุดลงชั่วคราวเมื่อ แม็ทธิว ไรอัน ได้รับบาดเจ็บหลังจากโดน แรชฟอร์ด ตามซ้ำลูกยิงมุมแคบตัวเองก่อนเตะเข้าไปที่หัวเข่า 

ช่วงทดเจ็บ เกมหยุดลงอีกครั้งเมื่อ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้รับบาดเจ็บจนถึงขั้นหิ้วปีกออกจากสนาม จากนั้นผู้ตัดสินเป่าจบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ ไบรท์ตัน 3-1 กระโดดขึ้นไปอยู่ที่ 7 ของตารางด้วยการมี 16 คะแนน