ที่ โรอาโซน ปาร์ก เป็นการดวลกันระหว่าง แรนส์ ที่ใช้งาน เอ็นดอมบ์ มูเบเล่ ลงเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนทาง เปแอสเช ใช้งานสามประสานตัวเก่ง เนย์มาร์, เอดินสัน คาวานี่ และ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้

เริ่มเกมมาเพียง 4 นาที คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ทำชิ่งกับ มาร์โก แวร์รัตติ ก่อนที่แนวรุกชาวฝรั่งเศสจะทิ่มให้ เนย์มาร์ จิ้มจ่อๆไม่พลาด

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 17 เปแอสเช นำห่าง 2-0 ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ แทงเข้าช่องให้กับ เนย์มาร์ ที่หนนี้จ่ายคืน คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ยิงไม่พลาด

ทีมเยือนยังคงทำได้ดีกว่า นาทีที่ 41 คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ เปิดมาให้ เอดินสัน คาวานี่ ยิงผ่าน โทมัส คูเบ็ค ไปแล้วแต่มี อามารี่ ตราโอเร่ สกัดออกจากเส้น

ปารีส มาอีกครั้งหนนี้ เนย์มาร์ ไหลมาให้ เอดินสัน คาวานี่ ได้สับไกเต็มเท้าแต่ก็ติดเซฟ โทมัส คูเบ็ค ก่อนจะซ้ำไปติด โชริส ญาญง 

ครึ่งหลังนาทีที่ 53 แรนส์ ไล่มา 1-2 จากเตะมุมทางซ้าย เบนฌาแม็ง บูรีโกด์ เปิดมาให้กับ มอร์กกาน อามาลฟิตาโน่ ยิงชนเสาไปเข้าทาง เอ็นดอมบ์ มูเบเล่ ซ้ำเข้าไป

นาทีที่ 63 เจ้าถิ่นต้องเล่น 10 คนหลังจาก เบนฌาแม็ง อองเดร ไปทำฟาวล์ เพรสเนล คิมเพมเบ้ เลยโดนเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป

แต่ 10 คนของเจ้าถิ่นหวิดทำแสบเมื่อ วาห์บี คาซรี่ พาบอลหนี คิมเพมเบ้ ก่อนจะหลุดไปยิงติดเซฟ อัลฟอนส์ อาเรโอล่า ปัดออกหลัง

อย่างไรก็ตามทีมเยือนมาติดเครื่องนำห่าง 3-1 ในนาที 75 เนย์มาร์ ว่งข้ามแนวรับจากกลางสนามให้ เอดินสัน คาวานี่ หลุดไปกระดกบอลข้าม โทมัส คูเบ็ค ไม่เหลือ

อีก 2 นาทีต่อมาสกอร์ขยับเป็น 4-1 จากสามประสานแดนหน้า เอดินวัน คาวานี่ ดีดออกขวา คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ตบกลับไปเสาไกลให้ เนย์มาร์ สไลด์ส่งบอลเสียบตาข่าย

      ท้ายเกม เพรสเนล คิมเพมเบ้ แนวรับดาวรุ่งของทีมเยือนมาโดนไล่ออกจากสนามหลังจากไปไปทำฟาวล์ ซีลีกี้ ในเขตโทษ แต่ทาง คาซรี่ กลับยิงไม่เข้า