ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 

วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2560

แมนฯ ซิตี้ 4 - สเปอร์ส 1

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี้ ปรับทัพน่าสนใจให้ อิลคาย กุนโดกัน ลงแทนตำแหน่งของ ดาบิด ซิลบา ที่ไม่มีชื่อในเกมนี้ ขณะที่ ลีรอย ซาเน่ กับ ไคล์ วอล์คเกอร์ คืนตัวจริง 

ส่วน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ของสเปอร์ส เล่นระบบแบ็กโฟร์ และแนวรุกมี  เดเล่ อัลลี่, คริสเตียน เอริคเซ่น และ ซน ฮึง-มิน ทำเกมสนับสนุน แฮร์รี่ เคน 

เริ่มเกมมานาทีที่ 3 แมนฯ ซิตี้ ทักทายก่อน เควิน เดอ บรอยน์ เปิดฟรีคิกไปเสาแรก เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" สอดมาโขกแต่ถากเสานิดเดียว 

นาที 14 แฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮกับประตูนำ 1-0 ซาเน่ เปิดเตะมุมมากลางประตู อิลคาย กุนโดกัน วิ่งมาโขกแบบไร้ตัวประกบ ก่อนส่งบอลเด้งพื้นเข้าไป 

เรือใบบุกได้น้ำได้เนื้อกว่าชัดเจน นาที 23 เควิน เดอ บรอยน์ ตวัดข้ามฝากให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ หลุดไปยิงเต็มข้อติดเซฟ  อูโก้ โยริส บอลเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เก็บตกได้ก่อนหาช่องยิงด้วยซ้ายแต่ไม่เข้ากรอบ  

นาที 35 สเปอร์ส ได้เสียวบ้าง คริสเตียน เอริคเซ่น ไหลให้ แฮร์รี่ เคน ลงมาล้วงบอลแล้วซัดหน้าเขตโทษหลุดออกหลังไปนิดเดียว ทำให้จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ นำ 1-0 

กลับมาครึ่งหลัง สเปอร์ส เริ่มต้นได้คึกคักกว่า และครองบอลในแดนแมนฯ ซิตี้ได้ต่อเนื่อง แต่จังหวะยิงก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน 

แมนฯ ซิตี้ หนีห่าง 2-0 ในนาที 70 เมื่อตัดบอลได้ในแดนตัวเองและโต้กลับทันที กุนโดกัน ไหลให้ เควิน เดอ บรอยน์ แต่งแล้วยิงด้วยซ้ายเต็มแรง อูโก้ โยริส ปัดได้แต่ความแรงของบอลก็ทะลักเข้าประตูอยู่ดี

อีก 5 นาทีถัดมา แมนฯ ซิตี้ ได้จุดโทษเมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ โดน แยน แฟร์ต็องเก้น เสียบทำฟาวล์ กาเบรียล เชซุส รับหน้าที่แต่บอลชนเสา ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ซ้ำโล่งๆ แต่ข้ามคานหน้าตาเฉย

สเปอร์ส เกือบได้ลุ้นตีไข่แตกเมื่อตัวสำรองอย่าง เอริค ลาเมล่า โชว์สเต็ปหลุดถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนปาดเข้ากลาง แฮร์รี่ วิงค์ส เก็บได้แต่เลือกแตะหนีตัวบล็อกจนบอลทะลักไปจนไม่ได้ลุ้น

เรือใบปิดเกมได้เด็ดขาดเมื่อได้ประตู 3-0 ในนาที 80 กุนโดกัน แทงให้ ซาเน่ ตวัดจังหวะเดียวจากซ้ายไปที่เสาไกล สเตอร์ลิ่ง วิ่งมาชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือ แก้ตัวได้สำเร็จหลังพลาดโอกาสงามๆ ไป 2 ครั้งก่อนหน้านี้

ท้ายเกมนาที 90 แมนฯ ซิตี้ มาได้ประตูอีกลูกเมื่อ แบร์นาโด้ ซิลวา ตัวสำรองวางบอลยาวไปหน้าเขตโทษสเปอร์ส เอริก ดายเออร์ สกัดไม่ดีกลายเป็นสะกิดให้ สเตอร์ลิ่ง หลุดเดี่ยวและพยายามจะแตะบอลไปยิงแต่ไม่โดน ทว่ากลายเป็นดีเมื่อบอลเด้งลอดขา โยริส ที่เสียจังหวะ ทำให้ปีกทีมชาติอังกฤษหลุดเดี่ยวก่อนวิ่งแปเข้าไปง่ายดาย และเป็นประตูที่ 2 ของตัวเองในเกมนี้

ช่วงทดเจ็บ สเปอร์ส ตีไข่แตกเมื่อ คริสเตียน เอริคเซ่น เก็บบอลได้หน้าเขตโทษก่อนแตะหาช่องแล้วยิงด้วยซ้ายหักคอ ส่งบอลเสียบโคนเสาเข้าไป จากนั้นจบเกม แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านชนะ สเปอร์ส 4-1 ยืดสถิติชนะเป็น 16 นัดรวดในลีก และทิ้งห่างแมนฯ ยูไนเต็ด เป็น 14 คะแนน โอกาสคว้าแชมป์สดใสเหลือเกิน 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

แมนฯซิตี้ : เอแดร์ซอน, ไคล์ วอล์คเกอร์, นิโกลัส โอตาเมนดี้, เอเลียควิม ม็องกาล่า, ฟาเบียน เดล์ฟ, เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นานดินโญ่, อิลคาย กุนโดกัน, ลีรอย ซาเน่, เซร์คิโอ อเกวโร่, ราฮีม สเตอร์ลิง

สเปอร์ส  : อูโก้ โยริส, คีแรน ทริปเปียร์, เอริก ดายเออร์, แยน แฟร์ต็องเก้น, แดนนี่ โรส,  มูซ่า เดมเบเล่, แฮร์รี่ วิงค์ส - เดเล่ อัลลี่, คริสเตียน เอริคเซ่น, ซน ฮึง-มิน, แฮร์รี่ เคน

ผู้ตัดสิน : เคร็ก พาวสัน