เอแด็น อาซาร์ มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียมของ เรอัล มาดริด ยอมรับว่าซีซั่นนี้เป็นปีที่เลวร้ายสุดในอาชีพค้าแข้งของเขา แม้ว่าทีมชุดขาวจะประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ลีกาสมัยที่ 34 และเป็นการคว้าแชมป์ลีกเมืองกระทิงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 ก็ตาม จากรายงานข่าวของมาร์ก้าเมื่อวันอาทิตย์ที่่ผ่านมา 

อาซาร์ ย้ายจาก เชลซี มาค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปีที่ผ่านมา แต่เขาบาดเจ็บจนต้องพักยาว 2 ครั้งจนมีโอกาสลงเล่นทุกรายการในซีซั่นนี้เพียง 21 เกมและยิงแค่ประตูเดียวเท่านั้นจนมิดฟิลด์วัย 29 ปียอมรับว่าเป็นซีซั่นที่เลวร้ายสุดในอาชีพค้าแข้งของตนเอง

'ปีนี้ในภาพรวม เราคว้าแชมป์ลีก แต่ระดับส่วนตัว แน่นอนว่าผมมีฤดูกาลที่เลวร้ายสุดในอาชีพของผม'

อาซาร์ ไม่มีส่วนร่วมกับเกมพ่าย แมนฯซิตี้ บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรกที่ทีมชุดขาวพ่ายคาสังเวียน 'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว' เนื่องจากบาดเจ็บ แต่มิดฟิลด์ชาวเบลเจี้ยนมีความกระตือรือร้นที่จะเล่นเกมแก้มือที่ 'เอติฮัด สเตเดี้ยม' ถ้าเขาถูกเทรนเนอร์ ซีเนดีน ซีดาน เรียกใช้งานเพื่อพลิกสถานการณ์แย่งตั๋วเข้ารอบ 8 ทีม 

'ฤดูกาลนี้ผ่านไปได้ดีมากสำหรับทีม แต่ผมคิดว่ามันจะดีกว่านี้ถ้าเราผ่านเข้ารอบต่อไปในแชมเปี้ยนส์ลีก'

'เมื่อคุณเล่นกับ เรอัล มาดริด คุณต้องการคว้าทุกโทรฟี่แชมป์เสมอ'

'ลำดับต่อไปจะเป็นแชมเปี้ยนส์ลีก แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากเพราะเราต้องเล่นกับ แมนฯซิตี้ และพวกเขาเป็นทีมที่ดีมาก'

อาซาร์ ยังเต็มไปด้วยความชื่นชมเทรนเนอร์อย่าง ซีดาน ซึ่งเป็นคนที่ช่วยเติมเต็มความฝันของเขาด้วยการดึงมาร่วมทีมร่วมค่าตัว 89 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ปีที่ผ่านมา 

'เราทุกคนต่างรู้จัก ซีดาน ในฐานะนักเตะ เขาดีที่สุด แต่ในฐานะโค้ช เราไม่จำเป็นต้องอธิบายสรรพคุณของเขาอีกต่อไป'

'เขาแสดงให้เห็นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาว่าเขาเป็นหนึ่งในโค้ชเก่งที่สุด เขาเป็นคนที่รู้วิธีพูดสิ่งต่างๆในเวลาที่เหมาะสม เขาเชื่อใจนักเตะของเขาและผู้เล่นของเขาก็ไว้วางใจเขา นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้มันเวิร์ค' อาซาร์ กล่าว