สถานการณ์บนตารางลีกหลังผ่านแมตช์เดย์ 37 แล้ว เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 3-5 วานนี้ ทำให้คงรั้งอันดับสี่ตารางมี 63 คะแนน ตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด อันดับสามที่แต้มเท่ากันแต่เป็นรองประตูได้-เสีย และเหนือกว่า เลสเตอร์ อันดับห้าหนึ่งแต้ม 

ความเป็นไปได้ที่ทีมของ แลมพาร์ด จะตีตั๋ว ชปล.คือห้ามแพ้ต่อ วูล์ฟส์ ในเกมวันอาทิตย์นี้ ( 27 ก.ค.) ส่วนการดวลกันเองระหว่าง เลสเตอร์ - แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีผลเว้นเสียแต่ว่า 'สิงห์บลูส์' เกิดพลาดท่า ก็ต้องแช่ง 'เดอะ ฟ็อกซ์' เน่าคารัง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ด้วย 

จึงนับว่าโค้ชประสบการณ์อาชีพปีที่ 2 อย่าง 'แลมพ์ส' กดดันพอสมควร อย่างไรก็ตามเจ้าตัวยังเก็บอาการเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่แข้งหนุ่ม 

"กับความกดดันก่อนเตะเกมอาทิตย์นี้ ลูกทีมผมต้องน้อมรับมันเอาไว้แล้วเปลี่ยนเป็นพลัง" เทรนเนอร์วัย 42 ปีเปิดปาก 

https://twitter.com/Chelsea_FL/status/1286062213493645312

แลมพาร์ดบอกเด็กอย่ากดดันจนออกอาการ

"ทีมปัจจุบันเป็นส่วนผสมของตัวประสบการณ์และแข้งหนุ่ม ในบางสถานการณ์ความห้าวของเด็กๆช่วยได้ แต่กับกรณีนี้ก็ต้องให้พวกอาบน้ำร้อนมาก่อนประคอง เรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้นเสมอกับสโมสรระดับหัวแถว ดังนั้นกว่าจะประสบความสำเร็จทุกคนต้องเคยลิ้มรสแรงกดดัน" 

"หากไปถามเมื่อต้นซีซั่นคงไม่มีใครเชื่อน้ำยาเราว่าจะต่อกรแย่ง 4 อันดับแรกได้ แต่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว เหลืออีกแมตช์ทุกอย่างอยู่ในมือเราเอง การพบ วูล์ฟส์ คู่แข่งแกร่งที่ เดอะ บริดจ์ ใส่กันให้เต็มที่" 

"ได้ไป-หรือ-ไม่ได้ไปเตะ ชปล.ขึ้นกับเราเอง ผมยังเชื่อมั่นในตัวลูกทีม เห็นประกายบางอย่างจากเกมพบ แมนฯ ยูไนเต็ด (เอฟเอ คัพ ) และ ลิเวอร์พูล มาตรวัดว่าเราอยู่ตรงไหน ทีมได้แสดงจิตวิญญาณนักสู้ แสดงหัวจิตหัวใจในสองแมตช์ล่าสุด" 

"เหลืออีกแค่แมตช์เดียวในลีกช่วยกันแบกความกดดันผ่านไปให้ได้" 

อัตราต่อ-รองจาก 'สกาย เบท' ร้านรับพนันถูกกฎหมายของอังกฤษยกให้ เชลซี มีโอกาสจบท็อป 4 เรตจ่ายต่ำแค่ 1/9 (แทง 9 จ่าย 1 ไม่รวมทุน) เพราะเชื่อว่าจะเก็บได้อย่างน้อยหนึ่งแต้มจากแมตช์เดย์ 38