ไมเคิ่ล มาโลน หัวหน้าโค้ช เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ยอมรับว่าลูกทีมวัยหนุ่มของเขามีประสบการณ์ด้อยกว่า เลอบรอน เจมส์ และบรรดาผู้เล่นเก๋าของ แอลเอ เลเกอร์ส ก่อนพ่ายทีม'ม่วง-ทอง' 107-117 เมื่อวันเสาร์ตกรอบชิงชนะเลิศของฝั่ง เวสเทิร์นคอนเฟอเรนซ์ ด้วย 1-4 เกมซีรี่ส์ แต่เฮดโค้ชวัย 49 ปีเชื่อว่าทีมของเขาจะกลับมาได้อีกครั้ง 

นักเก็ตส์ เคยตามหลัง แอลเอ คลิปเปอร์ส 1-3 เกมซีรี่ส์ในรอบก่อนหน้านี้ ก่อนพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายเข้ารอบด้วยการชนะ 4-3 เกมซีรี่ส์ แต่ทีมของ มาโลน ไม่สามารถสร้างปาฏิหารย์ในการเล่นกับ เลเกอร์ส เหมือนรอบที่ผ่านมาจนกระทั่งตกรอบด้วยการพ่าย 1-4 เกมซีรี่ส์ โดยยอมรับว่าประสบการณ์ของลูกทีมด้อยกว่าคู่แข่ง

เจมส์ ทำ'ทริเปิ้ล-ดับเบิ้ล' นำ เลเกอร์ส ชนะทีมของ มาโลน พร้อมทำสถิติเข้ารอบชิงชนะเลิศเอ็นบีเอครั้งที่ 10 มากสุดอันดับ 3 เทียบเท่า คารีม อับดุล-จับบาร์ ตามหลังเฉพาะ บิลล์ รัสเซลล์ และ แซม โจนส์ ที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ 12 กับ 11 ครั้งตามลำดับ

'เราเล่นกับคนที่มีประสบการณ์ลงเล่นรอบนี้เป็นกิจวัตรสำหรับเขา ดังนั้นเราจึงต้องปลอบใจกันในเรื่องนั้น' มาโลน กล่าวหลังเกม 'และความท้าทายของผมสำหรับกลุ่มผู้เล่นของเราคือเราจะกลับมา' 

นิโกล่า โยกิช กับ เจรามี่ แกรนท์ ทำคนละ 20 คะแนน ขณะที่ จามาล เมอร์รี่ย์ ทำ 19 คะแนนและมีอาการบาดเจ็บเท้าจึงฟอร์มแผ่วกว่าปกติ 

'มันไม่ใช่เป้าหมายสุดท้าย แต่จะทำให้มันมาไกลและสร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนจำนวนมากเหมือนที่เราทำ มันเป็นความรู้สึกที่ดี ดังนั้นพยายามกลับมาในปีหน้าและพยายามกลับมาแข็งแกร่งขึ้น' เมอร์รี่ย์ กล่าว

นักเก็ตส์ เป็นทีมที่ 16 ในประวัติศาสตร์เอ็นบีเอที่แพ้ 10 เกมในช่วงโพสต์ซีซั่นปีเดียวกัน ส่วนสถิติสูงสุดคือการแพ้ 11 เกม ทีมล่าสุดคือ ออร์แลนโด้ แมจิค ในปี 2009 พวกเขายังเป็นทีมที่สองที่ลงเล่นอย่างน้อย 19 เกมในรอบเพลย์ออฟปีเดียวและสถิติแพ้มากกว่าชนะ 9-10 เช่นเดียวกับ วอชิงตัน บูลเล็ตส์ ในช่วงโพสต์ซีซั่นปี 1979